Last updated: 2 ธ.ค. 2567 |
เรียกว่าประทับใจเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ มันส์เวทีสะเทือน สนุกสมการรอคอย สำหรับคอนเสิร์ตในรอบ 2 ปี ที่ประเทศไทยของวงดนตรีมากความสามารถ “N.Flying” (เอ็น.ฟลายอิ้ง) โดยเมมเบอร์ทั้ง 4 คน นำโดยหัวหน้าวง “อี ซึงฮยอบ” (Lee Seung Hyub), ยู ฮเวซึง (Yoo Hwe Seung), ซอ ดงซอง (Seo Dong Sung) และ “ชา ฮุน” (Cha Hun) ได้กลับมาหาเหล่า “เอ็นเฟีย” ชาวไทย (N.Fia : ชื่อแฟนคลับ) ตามคำสัญญา ในงาน “2024 N.Flying LIVE ‘HIDE-OUT’ in BANGKOK” ที่จัดเต็มโปรดักชั่น แสง สี เสียง โดยจัดขึ้น ณ MCC Hall เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค เมื่อเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา
ออกสตาร์ทเปิดเวทีก็ร้อนแรงเหนือคำบรรยายโดดกันยับ 3 เพลงรวด ‘Flowerwork’, ‘Video Therapy’, ‘Born to be' (เพลงที่ยังไม่ถูกปล่อย)’ ก่อนจะพักเบรกให้หนุ่มๆ N.Flying พูดคุยทักทายเอ็นเฟียพร้อมรีเช็กเสียงความคิดถึงหลังไม่เจอกันมานาน 2 ปี โดยซึงฮยอบในฐานะลีดเดอร์ก็ขอต้อนรับแฟนๆ ทุกคนเข้าสู่ฐานลับ 'HIDE-OUT' ของ N.Flying ก่อนแนะนำตัวเป็นภาษาไทยชัดเจน "สวัสดีครับ ผม อี ซึงฮยอบ ครับ" ตามด้วย ยู ฮเวซึง "สวัสดีครับ ผม ยู ฮเวซึง ครับ", ชา ฮุน "สวัสดีครับ ผม ชา ฮุน ครับ" และ ซอ ดงซอง "สวัสดีครับ ผม ซอ ดงซอง ครับ" ทั้งนี้หนุ่มๆ เผยว่าได้เชิญทุกคนเข้าสู่ฐานลับ 'HIDE-OUT' ของพวกเขามาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปีที่แล้ว ตอนนั้นเริ่มต้นด้วยกัน 2 คนแต่ตอนนี้มีสมาชิกมากขึ้นรวมถึง 'ดงซอง' และ 'ฮุน' ที่เพิ่งกลับมาซึ่งเจ้าตัวเผยว่าเหมือนได้กลับมาในจุดที่เขาควรจะอยู่นั่นเอง และตอนนี้พวกเขาก็ใกล้จะครบ 5 คนแล้ว แต่จนกว่าจะถึงวันนั้นก็จะมี 1 คนที่คอยซัพพอร์ตพวกเขานั่นก็คือมือกลองคนเก่งที่มาทำหน้าที่ในวันนี้และยกมือไหว้ทักทาย N.Fia ชาวไทยอย่างสวยงามน่าประทับใจคนนี้นี่เอง จากนั้นซึงฮยอบยังเล่าถึงความหมายดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในเพลงที่เพิ่งร้องไปอย่าง ‘Born to be' ว่าหมายถึง Born to be Star....Star ในที่นี่ไม่ใช่แค่พวกเขาแต่รวมถึง N.Fia ด้วย เมื่อเกิดมาเป็น Star แล้วในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่จะทำไม่ได้ พวกเขาก็เลยแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อให้คนที่ฟังเพลงนี้มีกำลังใจและสามารถที่จะทำได้ทุกอย่างนั่นเอง ก่อนจะเข้าสู่เพลงต่อไปพร้อมกับ N.Fia ดวงดาวที่อยู่ในกรุงเทพฯ และเป็นการร้องครั้งแรกให้แฟนๆ ที่นี่ฟังด้วย
โดยบทเพลงดังกล่าวก็คือเพลงฮิต ‘Star’ ซิงเกิลประกอบซีรีส์ดัง “Lovely Runner” ที่หนุ่มซึงฮยอบ รับบท 'แบค อินฮยอก' หัวหน้าวงและมือกีตาร์ ECLIPSE (이클립스) ในเรื่องนั่นเอง จากนั้นก็ตามมาด้วยเพลงใหม่ล่าสุดของพวกเขาอย่าง '네가 내 마음에 자리 잡았다 (Into You)' ที่แฟนๆ ได้ทำโปรเจ็กต์เซอร์ไพรส์แรกชูป้ายสโลแกนคำว่า “엔플라잉 네 가 내 마음에 자리 잡았다” (N.Flying พวกคุณได้เข้ามาครองหัวใจของฉันแล้ว) ทำเอาหนุ่มๆ เห็นแล้วยิ้มด้วยความปลื้มใจ จากนั้นได้พาทุกคนคอนทีนิวความสนุกต่อเนื่องพร้อมชวนออกสเต็ปเบาๆ กับเพลง YOUTH (꽃바람) และ ‘Oh really’ ทำเอาบรรยากาศร้อนแรงขึ้นมาจนหนุ่มซึงฮยอบอดชมไม่ได้ว่ากรุงเทพฯ นี่มันช่างร้อนแรงจริงๆ อีกทั้งทั้งเปรยๆ ว่าช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงความสดใสของ N.Flying ในคอนเสิร์ตวันนี้เลย ได้ร้องไปพร้อมๆ กับ N.Fia ก็รู้สึกใจมันพลิ้วไหวยังไงบอกไม่ถูก โดยเฉพาะเพลง YOUTH ที่ไม่ได้ร้องมาพักใหญ่ และทุกครั้งที่ร้องเพลงนี้จะอยู่บนเวทีแค่ 2 คน แต่วันนี้มี 4 คนก็อุ่นใจมากขึ้น ว่าแล้วก็ไปต่อกับบทเพลงที่หนุ่มซึงฮยอบบอกว่าร้องให้ทุกคนฟังเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกันนั่นก็คือ ‘Blue Moon’ ที่เพียงแค่ดนตรีเริ่มขึ้น แฟนๆ ก็พร้อมใจกันเปิดแฟลชมือถือสว่างไสวเต็มไปด้วยแสงสีฟ้าทั้งฮอลล์จนจบเพลง จากนั้นก็ตามด้วยบทเพลงสุดฮิตของพวกเขาอย่าง 'Rooftop' เพลงที่ครองชาร์ตอันดับ 1 ของเกาหลีมาแล้ว แน่นอนว่า N.Fia ร้องตามได้สนั่น จนหนุ่มฮเวซึงถึงกับเอ่ยปากชมเป็นภาษาไทยว่า 'Rooftop' ที่ร้องในรอบ 2 ปีที่กรุงเทพฯ เสียงของ N.Fia ที่ไม่ได้ฟังมานานนี่มัน "สุดยอด" และ "ปังมาก" เลยนะ เพลงของ N.Flying ที่ร้องคู่กับ N.Fia นี่สนุกที่สุดแล้วว่างั้น เช่นเดียวกับซึงฮยอบที่บอกว่าสนุกมากๆ ตัวเขานั้นอยากจะมากรุงเทพฯ มากๆ และพอได้มาฟังเสียงทุกคนในวันนี้ ความที่อยากมาของเขานั้นก็เป็นความรู้สึกที่ไม่ผิดพลาดจริงๆ การที่สนุกบนเวทีพร้อมกับ N.Fia เป็นเรื่องที่สนุกที่สุดแล้ว ซึ่งก็คิดตรงกันกับหนุ่มดงซองที่บอกว่ามาฐานนี้เป็นครั้งแรก หลังจากที่ออกจากกรมมานี่ก็เป็นการมาต่างประเทศครั้งแรกด้วย และรู้สึกคิดถูกมากๆ ที่มากรุงเทพฯ มัน "สุดยอด" (ภาษาไทย) มากๆ และดีมากๆ เลย ว่าแล้วก็หันไปแซวซึงฮยอบว่า คำนี้ออกเสียงเหมือนพี่เลยนะ 'ซึงฮยอบ' 'สุดยอด' ทำเอาแฟนๆ ฮากันตรึม
แต่นอกจากเพลงที่ผ่านมาแล้ว หนุ่มๆ บอกว่ายังมีอีก 1 เพลงที่อยากร้องให้ฟังหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน ถึงตรงนี้หนุ่มซึงฮยอบขอแสดงความยินดีกับฮเวซึงที่ได้รับรางวัล BEST OST. จากงาน Korea Grand Music Awards 2024 มาหมาดๆ ซึ่งเอ็นเฟียในฮอลล์ก็พร้อมใจกันปรบมือแสดงความยินดีกันสนั่น และแน่นอนนี่คือเพลงที่หนุ่มฮเวซึงอยากร้องให้เอ็นเฟียชาวไทยฟัง ‘I Think I Did’ เพลงประกอบซีรีส์ “Lovely Runner” อันโด่งดังนั่นเอง งานนี้แฟนๆ ในฮอลล์ก็ได้เคลิ้มไปกับเสียงร้องสายโวคอลของหนุ่มคนนี้กันถ้วนหน้าก่อนไปต่อกันกับเพลง ‘FLOWER FANTASY’ ที่เพราะกินใจไม่แพ้กัน จากนั้นหนุ่มๆ ก็พาไต่ระดับความมันส์พุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ กับบทเพลงอย่าง ‘Love you like that' (เพลงที่ยังไม่ถูกปล่อย), ‘GOOD BAM’ , ‘ANYWAY’ และ ‘4242’
ถึงตรงนี้ทั้งเอ็น.ฟลายอิ้งและเอ็นเฟีย สนุกสนานและคึกคักเป็นอย่างมาก บรรยากาศร้อนแรงจนซึงฮยอบต้องถอดแจ๊คเกตตัวนอกออกเผยให้เห็นกล้ามล่ำๆ เรียกเสียงกรี๊ดจากเอ็นเฟียกระหึ่ม โดยเจ้าตัวเผยว่าช่วงต่อไปได้เตรียมเพลงที่จะทำให้ทุกคนได้สัมผัสกับบรรยากาศอีกแบบนึงของเอ็น.ฟลายอิ้ง เป็นเพลงที่ เอ็นเฟีย รอคอยในคอนเสิร์ตของพวกเขาและเขาเองก็คาดหวังในช่วงนี้เหมือนกัน ก่อนจะคว้าแจ๊คเกตมาสวมกลับไป แต่งานนี้เจอเอ็นเฟียประท้วงลั่นฮอลล์ ทำเอาหนุ่มนักแสดงท่านนึงของแฟนๆ ต้องบอกอย่างเขินๆ ว่า "ผมเองก็ต้องเก็บเนื้อเก็บตัวหน่อยสิฮะ นี่ถ้าไม่ออกกำลังกายนี่เรื่องใหญ่เลยนะ ทุกคนชอบกันผมก็ดีใจนะ" 555 ก่อนที่จะพาเหล่าเอ็นเฟียเข้าสู่บทเพลงต่อไปอย่าง ‘Autumn Dream’ และ ‘Awesome’ โชว์สกิลสายร้องและศักยภาพด้านดนตรีสมกับที่ถูกยกให้เป็นวงแสดงสดได้เยี่ยมยอดทุกสเตจ โดยเฉพาะ Awesome เพลงเดบิวต์ของพวกเขาที่การได้นำกลับมาร้องอีกครั้งทำให้นึกถึงสมัยเดบิวต์ใหม่ๆ รู้สึกจักจี๋นิดหน่อยจนคิดว่าหลังจากที่ร้องในคอนเสิร์ตครั้งนี้แล้วก็คงจะไม่ได้ร้องไปอีกพักใหญ่ๆ เลย แต่ปรากฏว่าเสียงของเอ็นเฟียที่ร้องตามดังมากๆ ทำให้พวกเขาอาจจะต้องทบทวนกันใหม่อีกครั้ง และก่อนที่บรรยากาศจะคูลดาวน์ลงไป หนุ่มๆ ก็ขอไปต่อกับเพลงมันส์ๆ ความหมายดีๆ อย่าง 'Moonshot' รวมไปถึงไม่พลาดหยิบเพลง ‘Monster’ มาร้อง ท่ามกลางแสงสวยๆ จากแท่งไฟเรืองแสงอีกหนึ่งโปรเจ็กต์พิเศษจากแฟนคลับ และกระโดดแบบไม่พักกันต่อกับ 'The Real (진짜가 나타났다)'
โดดกันอย่างเมามันส์ แต่เวลาแห่งความสนุกผ่านไปอย่างรวดเร็ว หนุ่มๆ เอ็น.ฟลายอิ้งบอกว่า เหลือเพลงแค่เพลงสุดท้ายแล้ว ไม่อยากกลับเลย รู้สึกผิดมากๆ ที่เคยบอกแฟนๆ ทุกครั้งว่าจะรีบกลับมา แต่ครั้งนี้พวกเขาหายไปนานกว่าที่จะได้ทำตามสัญญาก็เลยอยากจะขอโทษ ทุกครั้งที่มา เอ็นเฟียไทยก็จะมอบความทรงจำที่ดีกลับไปให้พวกเขาทุกครั้งทำให้พวกเขารู้สึกผิด แต่ว่าพอมาที่สนามบิน แฟนๆ ก็ยังให้การต้อนรับที่อบอุ่นแก่พวกเขาก็ยิ่งทำให้รู้สึกผิดและมีความรู้สึกที่ซับซ้อนหลายๆ อย่าง นอกจากนี้หนุ่มซึงฮยอบยังเผยอีกหนึ่งข่าวดีว่า อีกไม่ถึง 100 วันอีกหนึ่งสมาชิกของวงอย่าง 'แจฮยอน' ก็จะออกจากกรมแล้ว เพื่อที่จะให้พวกเขาได้เจอกับแฟนๆ ทุกคนให้เร็วขึ้น พวกเขาเองก็จะวิ่งไม่หยุดยั้งไม่ว่าจะอยู่ที่เกาหลีหรืออยู่ที่ไหนก็ตาม และการที่ทุกๆ คนอยู่ที่นี่ทำให้ฐานทัพของพวกเขายังคงอยู่อย่างปลอดภัย ต้องขอขอบคุณทุกคนจากใจจริงอีกครั้งนึง และอยากจะมอบบทเพลงที่สามารถสื่อความขอบคุณให้กับทุกคนได้ และแน่นอนเพลงนั้นก็คือ 'Run' ซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายของคอนเสิร์ตในครั้งนี้
แต่ไม่เจอกัน 2 ปี ต้องใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า แฟนๆ พร้อมใจกันตะโกนเรียก 4 หนุ่มให้กลับขึ้นเวทีมาสนุกกันต่อ งานนี้พอโดนรีเควสต์ด้วยเสียงเรียกดังสนั่น หนุ่มๆ ก็รีบออกมาปรากฏตัวทันทีกับ 'The World Is Mine' เรียกว่าเอ็นเฟียยังไม่แผ่ว เอ็น.ฟลายอิ้งก็เอนเตอร์เทนไม่หยุดเช่นกัน ก่อนที่ในช่วงท้ายนี้หนุ่มๆ ได้กล่าวความรู้สึกถึงแฟนๆ ชาวไทยทีละคน
ฮเวซึง : มาเมืองไทยหลังจากที่ไม่ได้มานานจริงๆ อย่างที่พี่ๆ บอก บอกว่า 'จะรีบกลับมาๆ' แต่ก็ใช้เวลาถึง 2 ปี ในระหว่างที่เตรียมคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็มีแต่ความคิดที่ว่า 'อยากจะรีบมา อยากจะทำให้ดี' และอีกส่วนนึงของใจก็มีความคิดที่ว่า N.Fia จะยังรอพวกเราอยู่หรือเปล่านะ เพราะผมไม่ได้มานานจริงๆ หากว่า N.Fia ไม่มากันจะทำยังไงดีล่ะ พอมาถึงสนามบินปุ๊บเห็นภาพของ N.Fia ที่มารอต้อนรับพวกเราก็รู้สึก... อ๊า...นี่เรากังวลอะไรเนี่ย?? ทำแต่สิ่งที่เราเตรียมมาให้ดีๆ กว่าไม่ต้องไปกังวลอะไรไอ้เรื่องแบบนี้ และก็ตอนที่ขึ้นเวทีนี้มา มีเสียงกรี๊ดของทุกคน และนี่จะเป็นสัญญาที่รักษาไว้ได้อีกครั้งก็เป็นได้ แต่ว่า...ถ้าครบ 5 คนก็จะรีบกลับมาพบกับทุกคนให้เร็วที่สุดครับ ถึงแม้จะช้าไป แต่ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันรักษาฐานแห่งนี้ให้ดีนะครับ
ชา ฮุน : ถึงแม้ไม่ได้มานาน แต่ว่าทุกคนทำให้รู้สึกว่าพวกเราไม่ได้จากกันไปนานเลย ก็รู้สึกว่าจะได้มาสนุกบนเวทีและก็กลับไปเหมือนกับไม่ได้จากกันไปนานเลยนะครับ ครั้งต่อไปที่มา ทุกๆ คนที่อยู่ที่นี่ผมอยากเจอทุกคนอีกครั้งนึงครับ "ขอบคุณครับ"
ซึงฮยอบ : อย่างที่เมมเบอร์ได้พูดไป ก็คิดว่าน่าจะรู้สึกคล้ายๆ กัน ในระหว่างทัวร์ ‘HIDE-OUT’ ครั้งนี้ ก็มีการกลับมาของทั้ง ฮุน และก็ ดงซอง และด้วยความคิดที่ว่า แจฮยอน ก็จะกลับมาเร็วๆ นี้ ทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีและก็ตื่นเต้นไปด้วยตลอดคอนเสิร์ตนี้ จริงๆ เมื่อวานก็เช่นเดียวกัน พวกเราก็ได้พูดคุยกันถึงอนาคตของ N.Flying ถึงแนวทางที่พวกเราจะเดินของ N.Flying เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพเวทีของพวกเราที่จะแสดงให้กับ N.Fia ได้เห็น เพื่อที่จะได้เห็นความเติบโต เห็นพัฒนาการของ N.Flying เราก็มีการคิดอย่างต่อเนื่องถึงแผนการว่าจะทำอย่างไร จะไปในทิศทางอย่างไร จะเป็นอะไรก็ตาม จะเป็นเวทีที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม ก็จะต้องผ่านสิ่งเหล่านั้นเพื่อที่จะเป็นบทเรียน ก็อยากจะพูดให้กับทุกคนฟังว่า เมมเบอร์แต่ละคนก็มีการคิดอย่างสม่ำเสมอว่าจะเติบโต จะพัฒนาอย่างไรเพื่อที่จะยกระดับของ N.Flying ที่จะเดินไปคู่กับ N.Fia ต่อไป อันนี้แหละที่ผมอยากพูด แต่พูดไปก็เริ่มยาวแล้วนะครับ ฮเวซึง ก็บอกว่าสัญญาที่ให้ไปวันนี้ไม่รู้จะรักษาได้หรือเปล่าที่ว่าจะกลับมาให้เร็วที่สุด แต่ในใจของพวกเรา ความรู้สึกที่อยากจะกลับมากรุงเทพฯ ให้เร็วที่สุดเนี่ยมันอยู่จริงๆ เพราะฉะนั้นเราจะมาอย่างต่อเนื่องจนอายุ 80 อย่างแน่นอนครับ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ยังไม่ได้กินปูผัดผงกะหรี่ ผมทนไม่ได้ครับ (หัวเราะ) ผมจะกลับมาให้เร็วที่สุดครับ ผมมาเพื่อ N.Fia ไม่ใช่มาเพื่อปูผัดผงกะหรี่นะครับ ทุกคน ขอบคุณมากครับ
ดงซอง : อ่า N.Fia พี่ๆ ได้พูดในสิ่งที่ผมอยากจะพูดได้ดีกว่าที่ผมจะพูดอีกครับ เพราะฉะนั้นผมผู้ซึ่งพูดไม่ค่อยเก่งก็อยากจะพูดว่า ขอบคุณ N.Fia ที่รอ และก็อย่างที่พี่ซึงฮยอบได้บอกครับ จนกว่าจะอายุ 80 จะมาเจออย่างต่อเนื่อง ก็ขอให้ทุกคนรอต่อไปนะครับ รักนะครับ N.Fia
ว่าแล้วหนุ่มๆ ชวนเหล่าเอ็นเฟียไทยปลดปล่อยพลังงานที่มีอยู่ให้หมดจนนาทีสุดท้ายไปกับ 2 บทเพลงอย่าง 'Don't Forget This' (그러니까 우리) และ 'Stand By Me' งานนี้พูดได้คำเดียวว่าคอนเสิร์ตของเอ็น.ฟลายอิ้ง คุ้มเกินคุ้ม! เต็มอิ่ม! และมีแต่มวลความสุขทุกโมเมนต์จริงๆ!!...แล้วครั้งหน้าผู้จัด จะพาศิลปินคนไหนมามอบความสุขให้กับแฟนๆ อีก รอติดตามได้ที่ Facebook และ IG @starfun.global หรือ Twitter @StarfunGlobal
#NFlying #엔플라잉
#HIDE_OUT #HIDE_OUT_in_BANGKOK #BANGKOK #TOUR
#FNC #UJINENT #星樂全球娛樂 #THERAGIS #THERGRUB