แมวอายุ 20 ทำถึง!! "เยซอง" สวมวิญญาณ 'โวคอลตัวพ่อ' เสิร์ฟความสุขผ่านเสียงเพลง ทำ E.L.F. หัวใจเบ่งบานในงาน "2025 YESUNG CONCERT [Its Complicated] in Bangkok"

Last updated: 14 ก.พ. 2568  | 

แมวอายุ 20 ทำถึง!! "เยซอง" สวมวิญญาณ 'โวคอลตัวพ่อ' เสิร์ฟความสุขผ่านเสียงเพลง ทำ E.L.F. หัวใจเบ่งบานในงาน "2025 YESUNG CONCERT [Its Complicated] in Bangkok"

            เป็นของขวัญพิเศษต้อนรับเดือนแห่งความรักที่หัวใจของเหล่า E.L.F. (เอลฟ์ : ชื่อแฟนคลับของวง Super Junior) แฮปปี้ที่สุด เมื่อสายโวคอลตัวพ่อวงการเค-ป็อป “YESUNG” (เยซอง) แห่งวง ‘Super Junior’ (ซูเปอร์จูเนียร์) มาเสิร์ฟเสียงเพลงเพราะๆ ในงาน “2025 YESUNG CONCERT [It’s Complicated] in Bangkok” ที่จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 สยามสแควร์วัน การันตีสุดยอดคุณภาพโดยผู้จัด “ไอมี่ไทยแลนด์” (iMeThailand) แล้วยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นการกลับมายืนบนเวทีที่ประเทศไทยในฐานะศิลปินเดี่ยวอีกครั้ง และเป็นเอเชียทัวร์นอกประเทศเกาหลีใต้ครั้งแรก เยซองตั้งใจอย่างมากที่จะมาสร้างความทรงจำดีๆ จึงทุ่มสุดตัวกับการออกแบบคอนเซ็ปต์และเซ็ตลิสต์ทั้งหมดเพื่อให้แฟนคลับได้ดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุข และโมเมนต์ที่โหยหา เรียกว่าติ๊กถูกทุกข้อให้หนุ่มคนนี้เพราะฮีเสิร์ฟสุดพลัง!!

            ความสวยงามของทะเลสีน้ำเงินจากแท่งไฟสว่างขึ้นพร้อมเสียงเพลง ‘Small Things’ และการปรากฏตัวของ “เยซอง” หรือ “พี่เย่” ของ E.L.F. ชาวไทย ณ ห้วงนาทีแห่งความสุขในฮอลล์เริ่มต้นขึ้นทันที บรรยากาศค่อยๆ สนุกมากขึ้น และอบอวลไปด้วยรอยยิ้มผ่านเพลง ‘Between’, ‘같아 우리(Like Us)’ จากนั้นเยซองได้ไหว้ทักทาย E.L.F. พร้อมอ้อนเป็นภาษาไทยว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อเยซองครับ, เอลฟ์สวยจัง, น่ารักจริงๆ” เจ้าตัวยังบอกว่าเป็นการกลับมาพบกับทุกคนในรอบ 1 ปี 2 หรือ 3 เดือนนี่แหละครับ แต่ถ้ารวมคอนเสิร์ต 2024 SUPER JUNIOR < SUPER SHOW SPIN – OFF ก็ประมาณครึ่งปี แต่ก็ถือว่าไม่เจอกันนาน จากนั้นก็ขอเช็คชื่อเอลฟ์ที่มาจากต่างจังหวัด ถามว่ามีใครมาจากที่ไกลๆ บ้าง แบบที่ไม่ใช่ต่างประเทศ เอาเฉพาะคนไทยที่มาจากที่อื่น เพราะแน่นอนว่าไม่มีใครอยู่กรุงเทพฯ ทุกคนอยู่แล้ว เรียกว่ารู้จักแฟนชาวไทยดีจนเข้าใจเอลฟ์ภูธรที่ต้องหอบหิ้วสังขารมาจากจังหวัดไกลๆ เป็นอย่างดี ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนหัวใจเหล่านั้น ตัวเขาก็จะเพอร์ฟอร์มบนเวทีให้เต็มที่ พร้อมเล่าธีมของคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่จะสื่อถึงชีวิตประจำวันในหนึ่งวันของพวกเราที่เมื่อตื่นนอนขึ้นมาก่อนที่จะไปทำงานหรือไปเรียนก็อาจจะไม่ได้สดชื่นสดใสทุกวัน แต่ให้คิดในใจว่าวันนี้ก็น่าจะเป็นวันที่ดีกว่าเมื่อวาน วันนี้รู้สึกว่าอารมณ์ดีกว่าที่คิดนะ หรือว่าวันนี้จะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น คิดว่าทุกคนน่าจะมีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเพลงที่มาเริ่มคอนเสิร์ตในครั้งนี้ตัวเขาก็อยากจะเอาเพลงที่สนุกสนานมาเริ่มต้น แต่ว่าเมื่อเราเดินทางไปทำงานจริงๆ ไปเรียนจริงๆ ก็ไม่ได้โลกสวยซะทีเดียว ด้วยความรู้สึกที่มัน down แบบนั้น เขาก็เลยจะสื่อดนตรีของตัวเองออกมาให้ทุกคนรู้สึกไปด้วยกันกับเพลงที่เลือกมาเองกับมือต่อทันทีกับ ‘Scented Things’, ‘바람결에날려보아요’ (A Letter In The Wind) และ ‘너 아니면 안돼’ (It Has to Be You) โดยเฉพาะเพลงหลังนี้ทันทีที่ดนตรีดังขึ้น แฟนๆ ก็ส่งเสียงร้องตามกันทั้งฮอลล์



            ก่อนที่เยซองจะขยับมาปรับโหมดเพิ่มความสดใสกับเพลงจังหวะน่ารักๆ อย่าง ‘이렇게우리는’ (Like Us) ด้านเอลฟ์ (E.L.F.) ก็พร้อมใจกันชูป้ายสโลแกนสื่อความหมายซึ้งๆ ถึงเยซองว่า “예성이와 함께하면 행복이 더해요” (แปลว่า : เมื่ออยู่กับเยซอง ความสุขจะเพิ่มขึ้น) เจ้าตัวถึงกับยิ้มกว้างด้วยความปลื้มใจ แล้วเสิร์ฟต่อด้วยเมดเลย์เพลงญี่ปุ่น ‘Because I Love You〜大切な絆〜(Because I Love You -Taisetsuna Kizuna-), ‘束の間の恋’(TUKANOMANOKOI) และ ‘Let Me Kiss’ ทำเอาหูเคลือบทองกันทั้งฮอลล์ จบเพลงเจ้าตัวแอบเฉลยความลับว่า เมื่อกี๊ตอนร้องเพลง It Has to Be You ที่เรียกว่าเป็นเพลงชาติเอลฟ์ไทยก็ว่าได้ในตอนท้ายนั้นลิ้นพันกันด้วย แต่นี่แหละคือเสน่ห์ของการแสดงสดใช่มั้ยล่ะ พร้อมเผยว่าแอบเซอร์ไพรส์กับเมดเลย์เพลงญี่ปุ่นที่ตอนแรกคิดว่าทุกคนจะไม่รู้จัก แต่กลายเป็นว่าทุกคนทำได้ดีมากก่อนชมเอลฟ์ไทยว่า “ปังมาก สุดยอด” เจ้าตัวยังบอกว่ามีบางคนชอบเพลงในอัลบั้มภาษาญี่ปุ่นของเขามากกว่าด้วยซ้ำ โดยเฉพาะคุณแม่ของเขาก็ชอบเพลงในอัลบั้มญี่ปุ่นมากกว่า และถึงตรงนี้คอนเสิร์ตก็ผ่านมาครึ่งวันแล้ว เป็นช่วงเวลาเที่ยงก็ได้เวลาพักทานข้าวเที่ยง เป็นช่วงเวลาสนุกสนาน แต่สักพักก็จะถึงเวลาค่ำและก็เข้าสู่ ‘ค่ำคืนที่สวยงาม’ เพื่อเข้าสู่บทเพลงต่อไปอย่าง ‘Beautiful Night’ นั่นเอง

            จากนั้นก็ได้เวลาทานอาหารเที่ยงกับเพลง ‘굶지말기’ (Eat's OK) ที่เจ้าตัวได้แจกจ่ายขนมที่เตรียมมาให้เหล่าเอลฟ์ในฮอลล์ ต่อด้วย ‘Pink Magic’ ที่เรียกทุกคนในฮอลล์ลุกขึ้นมาจอยไปด้วยกัน ก่อนจะกลับมาบนเวทีพร้อมเพลง ‘달의 노래’ (My Dear) ถูกใจเอลฟ์ที่สุด เพราะได้แท็กทีมกันทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดแสงแฟลชจากโทรศัพท์มือถือ และแปรอักษรคำว่า “우리에게빛이되어줘서고마워” (แปลว่า : ขอบคุณที่เป็นแสงสว่างให้กับพวกเรา) ด้วยกล่องไฟตลอดทั้งเพลง เพื่อสร้างความประทับให้ศิลปินที่รัก แล้วยังต้องการย้ำว่าเยซองคือแสงสว่างของแฟนๆ เสมอมา และตลอดไป เรียกว่าค่ำคืนนี้สวยงามเหมือนที่เยซองบอกไว้จริงๆ เพราะเอลฟ์ในฮอลล์ได้เติมความประทับใจดีๆ ใส่เพิ่มในเมมโมรี่กับเซ็ตลิสต์ต่อมาไม่ว่าจะเป็น ‘4 Seasons’, ‘There She Goes Again’, ‘Curtain’ และ ‘Floral Sense’ นโซโล่เวอร์ชั่น เป็นความสุขผ่านเสียงเพลงจากเยซองที่ช่างดีต่อใจจนไม่มีใครอยากให้คอนเสิร์ตจบ 

            พักทอล์คกันอีกรอบ เยซองบอกว่าตอนนี้ช่วงกลางวันก็ผ่านไปแล้วก็เข้าสู่ช่วงบ่าย พร้อมเผยถึงความพิเศษที่เตรียมมาให้แฟนๆ นั่นก็คือของที่แจกในเพลง Eat's OK ที่จะเป็นขนมหวานจากเกาหลี, เมล็ดทานตะวันและก็น้ำผึ้ง เป็นความรู้สึกประมาณว่าเรามาทานข้าวเที่ยงด้วยกันนะ เข้ากับธีมเพลงที่สื่อว่าอยากกินอะไรก็กินเลยนะ เธอเป็นคนสวยอยู่แล้วไม่ต้องไดเอตหรอก! ก่อนเผยความรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมของแฟนๆ ว่าการที่ทุกคนจะถ่ายวิดีโอด้วยมือถือมันก็โอเคอยู่แหละ แต่ตัวเขาคิดว่าว่ามันก็ต้องมีความสุขสนุกสนานไปด้วย แต่กลายเป็นว่าทุกคนนั่งกันเป็นระเบียบ เขาก็เลยอึ้งไปนิดนึง ทุกคนควรจะโดด ต้องสนุกสนาน ต้องบ้าไปด้วยกันสิ แต่นี่เหมือนเขาจะบ้าอยู่คนเดียวก็เลยแอบเขินๆ นิดนึงว่างั้น! จากนั้นก็พูดถึงโปรเจ็กต์จากแฟนๆ ที่พร้อมใจกันเปิดแฟลชและชูสโลแกน “예성이와 함께하면 행복이 더해요” (เมื่ออยู่กับเยซอง ความสุขจะเพิ่มขึ้น) และ “우리에게빛이되어줘서고마워” (ขอบคุณที่เป็นแสงสว่างให้กับพวกเรา) ให้ด้วย ถึงตรงนี้เจ้าตัวบอกว่า “ผมคิดว่าทุกคนนั่นแหละครับเป็นแสงสว่างสำหรับผม ทุกคนย่อมมีวันที่ลำบาก ผมจะเป็นกำลังใจให้ทุกคน แต่ว่าทุกคนเองก็ต้องไม่ลืมว่า ทุกคนเองมีกำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมอยู่เสมอ นี่เป็นแรงขับเคลื่อนที่วิเศษจริงๆ ทำให้ผมสามารถที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ขอบคุณเสมอนะครับ ผมเองก็อยากจะเป็นกำลังให้กับทุกคนเช่นกันครับ” ถึงตรงนี้คอนเสิร์ตก็เข้าสู่ช่วงกลางคืนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศทิ่วิเศษ และบางครั้งแม้ว่าจะเหนื่อยล้ามาทั้งวัน แต่พอเข้าช่วงเย็นจะมีพลังขึ้นมา ด้วยความคิดที่ว่า จะมีเวลาของตัวเองที่จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน เยซองก็เลยเตรียมเพลงนี้มานั่นก็คือ ‘평행선’(Parallel Lines) ก่อนต่อด้วย ‘Beautiful Paradox’ และ ‘Fly’ (번지점프) เติมฟีลพลังบวกให้ทุกคนได้สนุกพร้อมๆ กับอบอุ่นใจ

            และตอนนี้คอนเสิร์ตก็เข้าสู่ช่วงท้ายแล้ว เจ้าตัวถือโอกาสนี้อวยพรปีใหม่แฟนๆ ย้อนหลังว่า ในปี 2025 นี้ขอให้มีความสุข เต็มไปด้วยพลังงาน มีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นแบบนี้ ขอให้เจอกับทุกคน ทำเอาเอลฟ์ในฮอลล์รีบ “สาธุ” กันแทบไม่ทัน ประหนึ่งเป็นการรับพรจากผู้ใหญ่อย่างนั้นเลย 555 เจ้าตัวบอกต่อว่าตัวเขาเองเตรียมคอนเสิร์ตด้วยความหวังดีแบบนี้ ด้วยความรู้สึกที่ว่าเราจะผ่านวันนี้ด้วยความรู้สึกดีๆ ไปด้วยกัน จากนั้นก็ชวนแฟนๆ มาสนุกกันให้เต็มที่ไปกว่านี้กับบทเพลง ‘Easy’, ‘Bear Hug’ และ ‘It's Complicated’

            จนเวลาเดินมาถึงในช่วงอังกอร์ เยซองกลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งกับบทเพลง ‘Silhouette’ ที่เจ้าตัวถามเอลฟ์ว่าทำไมต้องให้ถึงช่วงท้ายสุดถึงจะมาบ้ากันตอนนี้ การที่ทุกคนเครซี่กันมากแบบนี้ก็ทำเอาตัวเขาเองก็เหมือนจะเครซี่ด้วย จากนั้นก็ได้เวลาที่พี่เย่จะขอขายของกันสักหน่อยกับ MD (merchandise) หรือ official goods นั่นก็คือน้องแมวดำที่เป็นไอเดียของเจ้าตัวเอง ก่อนออกตัวว่าจริงๆ เขาไม่ใช่ประเภทมาเสนอขายอะไรกันแบบนี้ แต่ครั้งนี้รู้สึกอะไรหลายๆ อย่าง แต่ยังไงถึงไม่สวยทุกคนก็ซื้ออยู่ดี ก็เลยจะต้องลงทุนเวลา ความคิดสักนิดนึง ก่อนแอบแซววิถีแฟนว่าแอบเห็นนะว่าเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ก็จะเห็น MD นี้ไปโผล่ตามโซเชียล แลกเปลี่ยนโฟโต้การ์ดบ้างล่ะ ขายตามเว็บขายของบ้างล่ะ 555 และวันนี้ตัวเขาก็เอาตุ๊กตาที่น่ารักเหมือนน้องหมาของเขามา แต่แฟนๆ กลับบอกว่า “แกเหมือนแมวมากกว่า” เรียกว่าคิดว่าตัวเองเป็นหมามาจะ 20 ปี เพิ่งค้นพบว่าตัวเองเป็นแมวซะงั้น ว่าแล้วเจ้าแมวตัวโตก็ขอถ่ายรูปกับเอลฟ์ในฮอลล์เป็นที่ระลึก

            เยซองเผยต่อว่า นี่เป็นเอเชียทัวร์ครั้งแรกของเขา เป็นการออกนอกประเทศครั้งแรกของทัวร์นี้ และซูเปอร์จูเนียร์ก็เป็นวงแรกๆ ที่เบิกทางให้รุ่นน้องมากมายมาจัดคอนเสิร์ตที่เมืองไทยกันเยอะแยะเต็มไปหมด และเนื่องจากว่าเหล่าเอลฟ์ก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน จะมาตามแมวที่อายุ 20 ปีแบบนี้ไปตลอดเหรอ ก็คงแอบไปพบน้องหมาที่อายุ 2 ปีแทนบ้างแหละ แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณทุกคนจากใจจริงที่เสียสละเวลาอันมีค่ามาหาเขาในวันนี้ ในช่วงท้ายพี่เย่ก็แอบพูดถึงคอนเสิร์ตของเขาที่จะจัดที่มาเก๊าที่ตอนนี้ยังไม่โซลด์เอาท์ เอลฟ์ที่อยากดูยังสามารถจองบัตรทันนะ (จ๊ะ) พี่เย่ของแฟนๆ ยังบอกอีกว่า ในแบนด์ของเขาวันนี้มีบางคนที่เพิ่งขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกในชีวิตด้วย ถึงตรงนี้มือกลองยกมือขึ้น ทำเอาแฟนๆ กรี๊ดให้กำลังใจสนั่น เยซองข้องใจขอถามว่า โทษทีนะ! การที่บอกว่ามีบางคนขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกในชีวิตเนี่ยมันเป็นอะไรที่ควรจะตะโกนส่งเสียงเชียร์กันขนาดนี้เลยเหรอ 555 จากนั้นก็แนะนำแบนด์ที่มาเล่นดนตรีสดในวันนี้ และบอกต่อว่าเมืองไทยเป็นต่างประเทศที่แรกที่ซูเปอร์จูเนียร์บินมา ที่พัทยา หลายคนที่อยู่ที่นี่อาจจะไม่รู้ถึงตัวตนของพวกเขา ณ เวลานั้น และนี่ก็เป็นต่างประเทศที่แรกของทัวร์นี้ วันนี้เขาก็รับเอเนอร์จีดีๆ กลับไปจากทุกคน ก่อนจะชวนเหล่าเอลฟ์มาฟังเพลงสุดท้ายอย่าง ‘Slide Away’ ไปด้วยกัน ช่วงท้ายสุดเจ้าตัวยังกล่าวขอบคุณเป็นภาษาไทยทั้ง “ขอบคุณครับ”, “เจอกันใหม่นะครับ”, “กลับบ้านดีๆนะครับ'', “รักนะครับ”

           นับว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ทั้งเยซอง และเอลฟ์ต่างฝ่ายต่างก็หัวใจเบ่งบานเป็นที่สุด!! โดยระหว่างคอนเสิร์ตเจ้าตัวพยายามสื่อสารกับทุกคนให้มากที่สุดด้วยการเดินลงมาทักทายแฟนๆ ในฮอลล์ ส่งสายตามองหาอย่างทั่วถึง ประกอบกับครั้งนี้เป็นการร้องกับดนตรีสดด้วยพลังเสียงที่ใครๆ ก็ยอมรับของเยซอง ทำให้งานครั้งนี้เต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ และถึงแม้เอลฟ์จะเคยเผลอใจให้หมาเด็กอายุน้อยๆ ไปบ้าง แต่ก็รักแมวตัวนี้มาตลอด 20 ปีนะ

           แล้วครั้งต่อไป “ไอมี่ไทยแลนด์” จะพาศิลปินคนไหนมาให้แฟนคลับได้ใจฟูกันอีก ต้องรอติดตามกันให้ดีๆ ผ่านทาง Facebook @imethailand, IG และ Twitter @ime_th

 
#예성 #YESUNG
#슈퍼주니어 #SUPERJUNIOR
#2025_YESUNG_CONCERT_Its_Complicated_in_Bangkok
#2025_YESUNG_CONCERT #Its_Complicated
#iMeThailand

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้