Last updated: 1 มี.ค. 2568 |
งานนี้ต้องขอปรบมือดังๆ ให้กับ “บริษัท แรบบิท มูน คอร์ปอเรชั่น จำกัด" ผู้นำด้านดนตรีและความบันเทิงกับค่ายเพลงรวมถึงธุรกิจบันเทิง และการจัดการศิลปิน กับการเปิดตัวผู้จัดค่ายน้องใหม่มาแรงอย่าง “Rabbit Moon” บริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่ก้าวออกมาประสบความสำเร็จอย่างสวยงามเกินคาดกับเทศกาลดนตรี K-POP แห่งปีที่ทุกคนรอคอยกับ “RABBIT TO THE MOON 2025” ครั้งแรกของเทศกาลดนตรีที่ระดมศิลปินเกาหลีหลากแนวไม่ว่าจะเป็น BAEKHYUN นักร้องเสียงนุ่ม / ZICO แร็ปเปอร์ชื่อดังระดับโลก / THE ROSE วงดนตรีอินดี้ร็อคที่ได้รับความนิยมทั่วเอเชีย / POW วงบอยแบนด์ ที่สาวๆ คลั่งไคล้ / KEP1ER เกิร์ลกรุ๊ปสาวสวย และ BADVILLAIN 7 สาวเกิร์ลกรุ๊ปสุดเฟียร์ซ ที่ต่างจัดเพลย์ลิสต์โชว์พิเศษมามามอบความสนุก ความประทับใจให้กับแฟนเพลงชาวไทย เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นอิมแพ็ค อารีน่า ไปเมื่อวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา งานนี้ดีกรีความมันส์แบบนันสตอปเรียกว่า ฟินฉ่ำ 5 ชั่วโมง คุ้มเกินราคาบัตรแต่ละใบกันไปทีเดียว
สตาร์ทความสนุกทันทีที่เทศกาลดนตรีเริ่มขึ้นท่ามกลางเสียงกรี๊ดต้อนรับเกิร์ลกรุ๊ปวงแรก KEP1ER (เคปเลอร์) 7 สาว ยองอึน, ยูจิน, ดายอน, ฮิคารุ, เสี่ยวถิง, ฮยูนิง บาฮีเอ และ แชฮยอน ที่ออกมาโปรยเสน่ห์ทั้งร้องทั้งเต้นให้แฟนกรี๊ดตามด้วยเพลง “The Girls” ตามด้วย “LVLY” ก่อนเบรกทักทายเหล่าเคปเลี่ยนและแฟนๆ ชาวไทยอย่างเป็นทางการโดยเริ่มด้วยภาษาไทยที่ค่อนข้างชัดว่า "สวัสดีค่ะ พวกเรา KEP1ER ค่ะ คิดถึงทุกคนมากๆ เลยค่ะ" 7 สาวบอกว่าไม่ได้มาขึ้นเวทีที่กรุงเทพฯ นานมากเลย ซึ่งพอได้มาวันนี้เหล่าเมมเบอร์ก็รู้สึกสดชื่นมาก และจากชื่องาน RABBIT TO THE MOON ในวงของพวกเธอก็มี Rabbit หรือกระต่ายประจำวงเหมือนกันนะนั่นก็คือสาว ‘ยูจิน’ นั่นเองค่า และไหนๆ ก็มากรุงเทพฯ กันแล้วพวกเธอก็ได้ลองพูดชื่ออาหารคนละอย่างที่แต่ละคนชอบมากที่สุด ซึ่งก็มีทั้ง ผัดไทย ที่ได้ทานไปแล้วอย่างเอร็ดอร่อย รวมไปถึง “มะม่วง” ของไทยก็มีชื่อเสียงมากๆ เช่นกันและตั้งเป้าว่าจะกินมะม่วงให้เยอะก่อนกลับ
ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ 7 สาวก็ชวนแฟนๆ ไปสนุกกันต่อกับเพลง “MVSK”, “Sync-Love” ต่อด้วยเพลงฮิต “WADADA” เล่นเอาแฟนร้องตามสนั่นก่อนจะต่อด้วย “Back To The City” 6 เพลงผ่านไปสาวๆ บอกว่าร้องไปก็ดูหน้าแฟนๆ ไปด้วย และทุกคนก็ดูเอนจอยและมันส์กันอยู่มากๆ แฟนๆ ดุเดือดกันสุดๆ ก็เลยรู้สึกขอบคุณมากๆ ทำให้ไม่เหนื่อยเลยสักนิด และสาวๆ KEP1ER ก็เตรียมของขวัญมาให้แฟนๆ ด้วยนั่นก็คือเสื้อยืดที่มีลายเซ็นของพวกเธอนั่นเอง แจกด้วยการสุ่มโยนให้ผู้โชคดี จากนั้นก็ขอถ่ายรูปกับแฟนๆ เก็บเป็นความทรงจำก่อนจะต่อด้วย 2 เพลงสุดท้ายอย่าง “Shooting Star” และ “TIP-TAP”
ช่วงเบรกรอศิลปินถัดไป ดีเจอ๋อง-เขมรัชต์ สุนทรนนท์ ก็ขึ้นมาพูดคุยทักทายแฟนๆ ในฮอลล์เพื่อแนะนำศิลปินของงาน RABBIT TO THE MOON 2025 ในคืนนี้ ก่อนที่จะถึงคิวของ 5 หนุ่มวง POW (ยอร์ช, ฮยอนบิน, จองบิน, ดงยอน และฮง) ออกมาเรียกเสียงกรี๊ดกันบ้าง เริ่มต้นกับเพลงฮิตอย่าง “Favorite” และ “Valentine” ท่ามกลางเสียงกรี๊ดล้นหลาม จบ 2 เพลงแรก หนุ่มๆ วง POW ก็ขอทักทายเหล่าพาวเวอร์ (Power) และแฟนๆ ในฮอลล์ด้วยการแนะนำตัวเป็นภาษาไทยในฐานะที่หนึ่งในสมาชิกและลีดเดอร์ของวงเป็นคนไทยว่า "สวัสดีครับ พาว ครับ" "สวัสดีครับ ผมเป็นน้องเล็กของวงนะครับ ฮงครับ", "สวัสดีครับ จองบินครับ" "สวัสดีครับ ผมยอร์ชครับ" "สวัสดีครับ ฮยอนบินครับ" "สวัสดีครับ ดงยอนครับ" โดยหนุ่มยอร์ชบอกว่าดีใจมากที่ได้กลับมาเล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศตัวเอง คิดถึงพาวเวอร์ชาวไทยมากๆ ดีใจมากที่ได้กลับมา เพื่อนๆ เสริมว่าเป็นการมาเยี่ยมประเทศไทยในหน้าหนาวของเกาหลีเป็นครั้งแรกของพวกเขาเลย รู้สึกว่าเย็นดี ชอบมากเลย มีเสน่ห์ที่ต่างกับหน้าร้อนจริงๆ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ร้อนมากๆ แต่ล่าสุดก็ได้รู้ว่าที่ประเทศไทยก็มีส่วนที่เย็นๆ ด้วย นั่นก็คือ ‘พะเยา’ บ้านเกิดของหนุ่มยอร์ชนั่นเอง โดยที่เจ้าตัวบอกว่า อาจหนาวน้อยกว่าเกาหลีนิดนึง แต่พะเยาก็เป็นที่ๆ เย็นมากสำหรับพวกเขา นอกจากนี้หนุ่มๆ วง POW ยังมีข่าวดีสำหรับแฟนๆ นั่นก็คือเพลงล่าสุดที่ปล่อยออกมาอย่าง Gimme Love จะได้มาโชว์ในวันนี้นั่นเอง
แต่ก่อนอื่นนั้นก็มาฟังเพลงเดบิวต์ของพวกเขาอย่าง “Dazzling” กันก่อน เพลงนี้เหล่าพาวเวอร์ร้องตามกันได้สนั่น ต่อด้วยเพลงที่น่าฟังมากๆ ในช่วงเย็นๆ ก็คือ “Slow Dancing” และก็เพลงที่ถ้าฟังแล้วนึกถึง POW แน่ๆ เลยก็คือ “Sunset” นั่นเอง เรียกว่าถูกอกถูกใจเหล่าแฟนๆ จนต้องส่งเสียงกรี๊ดให้เนิ่นนานจนหนุ่มๆ หุบยิ้มไม่ได้เลย แต่ก็ไม่ลืมที่จะแนะนำเพลง “Gimme Love” ว่าเป็นเพลงที่หนุ่มยอร์ชและจองบินมีส่วนร่วมในการเขียน และวันนี้เป็นการมาเล่นในเมืองไทย ก็ต้องมีอะไรที่บ่งบอกความเป็นไทย หนุ่มๆ ก็เลยเปลี่ยนเนื้อเป็นภาษาไทยและมีการซักซ้อมชวนแฟนๆ ร้องด้วยกันในเพลง Gimme Love (เวอร์ชั่นไทย) นั่นเอง ซึ่งในเพลงนี้ท่อนที่หนุ่มๆ ร้อง "gimme love พร้อมทำทุกอย่างเพื่อเธอ" แฟนๆ ได้ร้องตอบว่า "yeah I swear, yeah I swear" และเมื่อหนุ่มๆ ร้อง "gimme love ฉันขอสัญญากับเธอ" ทุกคนก็ร้องตอบว่า "hold my hand, hold my hand" ประทับใจกันไปทั้ง 2 ฝ่าย จากนั้นหนุ่มๆ ก็จัดเซอร์ไพรส์ด้วยการโคฟเวอร์เพลงของ GOT7 อย่าง Just Right ซึ่งเป็นเพลงที่หนุ่มยอร์ชบอกว่าชอบมากๆ นั่นเอง
เสียงกรี๊ดดังต่อเนื่องทำเอาหนุ่มยอร์ชประทับใจสุดๆ และ 5 หนุ่มก็คึกมากๆ ก่อนที่จะแนะนำเพลง Gimme Love อีกครั้งว่าเพลงนี้ยอร์ชกับจองบินเป็นคนเขียนและแต่งมาเพื่อพาวเวอร์ทุกคน ถึงตรงนี้ก็ใกล้ถึงเวลาบอกลากันแล้ว หนุ่มฮงบอกว่าทุกครั้งที่มากรุงเทพฯ จะมีความทรงจำที่ดีมากๆ ครั้งหน้าก็อยากจะได้เอเนอร์จีอยากได้ความร้อนแรงแบบนี้อีกครั้ง จองบินเสริมว่าตอนซาวด์เช็กยังรู้สึกหนาวอยู่เลยนะ แต่ตอนนี้ทุกคนเชียร์กันอย่างร้อนแรงมากๆ ทำให้เหงื่อไหลไม่หยุดเลย ต้องขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่มางานในวันนี้และขอฝากเพลงใหม่ล่าสุด Gimme Love กับทุกคนด้วย ครั้งหน้าที่เจอกันขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงและแฮปปี้ๆ ด้าน ฮยอนบิน บอกว่า ได้มากรุงเทพฯ นานๆ ครั้ง แต่ก็รู้สึกดีใจที่นอกจากวง POW แล้วก็มีศิลปินวงอื่นๆ มาแสดงด้วยความแฮปปี้เช่นเดียวกัน ครั้งหน้าจะมาในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า ที่พัฒนามากขึ้น ขอบคุณทุกๆ คนมากๆ เลย ส่วนดงยอนบอกว่าตอนนี้เกาหลีหนาวมากๆ ก็เลยคิดถึงความอุ่นมากเลย แต่วันนี้เขาได้รู้ความจริงอย่างนึงคือ ไม่ใช่ว่าประเทศไทยร้อน แต่คือความรักจากแฟนๆ ที่ร้อนเว่อร์ งานนี้ก็เลยได้เสียงกรี๊ดไปอีกเต็มๆ ปิดท้ายด้วยหนุ่มยอร์ช ที่บอกว่ากลับมาประเทศไทยเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ แต่ว่าการที่ได้รวมตัวกัน 5 คนและแสดงบนเวทีและมีแฟนคลับชาวไทยมากันเยอะขนาดนี้ ก็รู้สึกแฮปปี้ที่ได้เจอกันแบบนี้ ดีใจมากๆ ที่ได้กลับมาเจอทุกคนอีกครั้ง ก่อนที่ 5 หนุ่ม POW จะจบโชว์ด้วย 2 เพลงสุดท้ายอย่าง “Amazing” และ “Boyfriend” เล่นเอาแฟนกรี๊ดจนเจ็บคอกันไปทีเดียว
แต่ความสนุกยังไม่หยุด ต่อด้วยความเฟียร์ซของ 7 สาวเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง BADVILLIAN (แบดวิลเลิน) เอ็มม่า, โคลอี้ยัง, ฮยูอี, อีนา, ยุนซอ, บิน และ เคลลี่ ที่ออกมาโชว์พลังระดับพาวเวอร์เกิร์ลทั้งร้องทั้งเต้นสุดสตรองให้สมกับเป็นครั้งแรกในเวทีต่างประเทศของพวกเธอโดยเริ่มที่เพลงเดบิวต์อย่าง Badvillain ก่อนที่จะทักทายแฟนๆ ชาวไทย "สวัสดีค่ะ ไทยแลนด์ พวกเรา Bad Villian ค่ะ" เป็นภาษาไทยด้วยสำเนียงสุดคิวท์ จากนั้นก็แนะนำตัวทีละคนแถมเตรียมภาษาไทยมาแนะนำตัวกันคนละประโยคอีกต่างหาก นอกจากนี้พวกเธอยังขยันพูดภาษาไทยกันซะด้วยเช่น “ยินดีที่ได้เจอกันค่ะ”, “ทุกคนน่ารักจังเลย”, "ทุกคนสบายดีมั้ยคะ" ก่อนเผยต่อว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ขึ้นเวที RABBIT TO THE MOON นี่เป็นการแสดงต่างประเทศครั้งแรกก็เลยรู้สึกตื่นเต้น ซึ่งพวกเธอก็เตรียมตัวมาเยอะมากสำหรับงานนี้ อยากให้ทุกคนสนุกและจอยๆ ไปด้วยกัน ก่อนถามแฟนๆ เป็นภาษาไทยด้วยสำเนียงสุดคิวท์ว่า "พร้อมยังคะ เริ่มเลยย" และไปต่อกันอีก 2 เพลงอย่าง “Hurricane” และ “+82” ทำเอาแฟนๆ (โดยเฉพาะหนุ่มๆ) หัวใจกระชุ่มกระชวยไปตามๆ กัน
พักจิบน้ำกันอีกแป๊บ แต่สาวๆ แทบไม่ได้พักเพราะมีร้อง+แร็พให้แฟนๆ ฟังอีกรอบแบบสดๆ แถมมีโชว์ตีลังกา 3 ตลบให้ดูกันอีกต่างหาก เอเนอร์จีเวอร์วังแบบไม่มีใครเกิน โดยสาวๆ บอกว่านี่เป็นการแสดงเพลง “+82” เป็นครั้งแรกต่อหน้าผู้คนเยอะๆ ก่อนชม "ไทยแลนด์สวยมากๆ" และเล่าว่าจนถึงตอนนี้มาไทยยังไม่ได้กินอาหารอร่อยๆ ที่อยากกินเลย พวกเธออยากทานยำวุ้นเส้น เคยกินต้มยำกุ้งมาแล้วด้วย แต่คืนนี้จะกินอีก ส่วนขนมหวานอยากกิน ‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ พี่ๆ ยังบอกว่าน้องเล็ก ‘เคลลี่’ ได้เตรียมภาษาไทยมาด้วยล่ะว่าแล้วก็โชว์ประโยคที่เตรียมมาทั้ง "หิว" "กินอาหารเย็นที่ไหนดี" "ขอเสียงหน่อย" "น่ารักมากๆ ค่ะ" "สุดยอด" เรียกเสียงกรี๊ดด้วยความเอ็นดู ก่อนที่จะซักซ้อมเพลงต่อไปอย่าง YAH-HO กับแฟนๆ ว่าถ้าพวกเธอร้อง “YAH-HO” ก็ให้แฟนๆ ตอบกลับมาว่า “YAH-HO” นั่นเอง ว่าแล้วก็ไปสนุกกับเพลงที่ 4 ของสาวๆ BADVILLIAN อย่าง 야호 (YAH-HO) (BADTITUDE) นั่นเอง
แวะจิบน้ำกันอีกสักรอบ สาวๆ มีขอ "น้ำ" เป็นภาษาไทยกันแล้วค่ะ และเนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกของพวกเธอที่เมืองไทย สาวๆ ก็ได้เตรียมของขวัญพิเศษมานั่นก็ก็คือซีดีพร้อมลายเซ็นอัลบั้มของพวกเธอ โดยจะเลือกสุ่มให้แฟนๆ โซนที่ร้องเพลงของพวกเธอได้ดังที่สุด และไม่ลืมที่จะแจกเสื้อยืดของงานในวันนี้พร้อมลายเซ็น จากนั้นก็ชวนแฟนๆ ทำแดนซ์ชาเลนจ์เพลง YAH-HO กันอีกสักรอบ งานนี้แฟนๆ ก็ให้ความร่วมมือเต็มที่ทำให้สาวๆ แฮปปี้มากๆ สนุกสุดๆ ก่อนที่จะต่อกันด้วยเพลงสุดท้ายของพวกเธออย่าง ZOOM จบเพลงสาวๆ เผยว่ารู้สึกเสียใจที่จะต้องไป นี่เป็นการขึ้นเวทีต่างประเทศก็เลยรู้สึกสนุกมาก และไม่ลืมที่จะขอถ่ายรูปกับแฟนๆ เป็นที่ระลึกก่อนลากันไปด้วยภาษาไทยที่เตรียมกันมาอย่างดีทั้ง "ทุกคน รักมากๆ" "รักทุกคนมากๆ ค่ะ" เรียกว่าสาวๆ กลุ่มนี้ตกแฟนๆ ชาวไทยเข้าด้อมได้อย่างมหาศาลกับการแสดงอันทรงพลังและความเซ็กซี่, ขี้เล่นของพวกเธอนั่นเอง
ได้เวลาเปลี่ยนโหมดกับซาวด์ดนตรีอินดี้ร็อคกันกับวง THE ROSE (อูซอง, โดจุน, แจฮยอง และฮาจุน) ที่จัดโชว์มาเต็มสกิลทั้งพลังดนตรีและพลังเสียงยิงยาวกันถึง 8 เพลงรวด ไม่ว่าจะเป็น “Eclipe”, “Shift”, “Lifeline (Reborn)”, “Red”, “Back to me”, “Definition Of Ugly Is (Strings)”, “Alive”, “Yes”, “Cosmo” และ “Sour” สะกดหัวใจสาวๆ จนเสียงกรี๊ดดังสนั่นในทุกเพลง ทำเอา 4 หนุ่มที่ตอนแรกแอบเกร็งว่าจะมีแฟนๆ รู้จักพวกเขามั้ยใจชื้นไปเลยทีเดียว หนุ่มอูซอง นักร้องนำรูปหล่อเผยว่าตอนแรกก็กังวลเบาๆ ว่า งานนี้จะมีแฟนของพวกเขาเยอะมั้ย กลัวแฟนๆ จะไม่สนุกกัน แต่ปรากฏว่าเสียงกรี๊ดของแฟนๆ ดังมาก และวันนี้พวกเขามาแสดงที่นี่ในฐานะ The Rose อีกครั้ง มันเหนื่อย แต่แฮปปี้มากๆๆๆ เพราะทุกคนแฮปปี้กันนั่นเอง หนุ่มๆ ยังไม่ลืมที่จะขอบคุณ RABBIT TO THE MOON ที่เชิญพวกเขามาในวันนี้ นี่เป็นการมาเมืองไทยประมาณครั้งที่ 4 ชอบบรรยากาศที่ไทย ชอบผู้คนมากๆ เลย และแน่นอนว่าแฟนๆ ก็ประทับใจ 4 หนุ่มสุดๆ เรียกว่าเป็นวงที่เก่งรอบด้าน ทำเพลงเอง เล่นดนตรีเอง แถมยังวิชวลทั้งวง งานนี้ไม่กรี๊ดคอแตกก็ให้มันรู้ไป
จากนั้นถึงเวลาเสียงกรี๊ดสนั่นต้อนรับแร็ปเปอร์หนุ่ม ZICO ที่มาโชว์พาวเวอร์การแร็ปสุดพลังระดับอินเตอร์ผสมกับลีลาน่ารักขี้อ้อนในเพลง “Tough Cookie”, “Artist”, “Any Song”, “It’s not him/her”, “You are me, I am you”, “SPOT!”, “New Thing”, “Turtle Ship”, “Okey Dokey” แถมด้วยช่วงอังกอร์กับ “Yes or No”, “When he got extra time” และ “Boys and Girls” เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นได้ทุกเพลง โดยหนุ่มซิโค่บอกว่า ดีใจที่ได้กลับมากรุงเทพฯ อีกครั้ง วันนี้ทั้งร้อง, เต้น, แร็ป แบบไม่มีพักก็ทำเอาเหนื่อยไม่น้อย แต่มีสิ่งที่ทำให้เขามีพลังงานอีกครั้งนั่นก็คือเสียงที่ทุกคนส่งมาให้ดังๆ นี่แหละ ทุกคนคือพลังงานของเขา และเสียงกรี๊ดทำให้เขาคึกคักได้เรื่อยๆ และนี่คือศิลปินหนุ่มตัวพ่อแห่งความมันส์และความที่ทำเอาเวทีลุกเป็นไฟที่แท้ทรู
ก่อนจะปิดท้ายด้วยศิลปินที่สาวๆ รอคอยกับหนุ่ม BAEKHYUN (แบคฮยอน) แห่งวง EXO ที่ขนเพลงน่ารักสนุกๆ มาให้แฟนทั้งกรี๊ดและร้องตามแบบจุกๆ ให้หายคิดถึงกันโดยเริ่มกันที่ “Pineapple Slice” และ “UN Village” ก่อนแวะทักทายแฟนๆ เหล่า EXO-L หรือเรียกสั้นๆ ว่า เอลี่ หรือ แอลี่ ชาวไทยในฮอลล์กันก่อน โดยเผยว่ารู้สึกดีใจมากเลยที่ได้เจอเอลี่ทุกคนในประเทศไทยอีกครั้ง และวันนี้ก็เป็นการโชว์เพลง Pineapple Slice ที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นมากเพราะเป็นครั้งแรกที่โชว์ต่อหน้าเอลี่ชาวไทย และความร้อนแรงของเอลี่ชาวไทยทำให้เขาคิดว่าวันนี้ก็น่าจะสนุกมากๆ เลยทีเดียว ก่อนจะเข้าเพลงต่อไปอย่าง “Good Morning” และ Rendez-vous ที่โชว์เป็นครั้งแรกที่นี่เช่นกัน
จบเพลงแบคฮยอนบอกว่ามีเรื่องค้างคาใจมาตลอดกับการที่ไม่ได้ให้เอลี่ไทยได้ฟังเพลงใหม่ๆ ของเขา วันนี้เลยเหมือนได้ปลดล็อค ซึ่งครั้งต่อไปก็วางแผนว่าจะมาไทยเป็นอันดับแรก ดีมั้ยเอ่ย??? ซึ่งตอนนั้นพอมาก็อยากให้ทุกคนได้ฟังเพลงใหม่ๆ ของเขาทั้งหมด โดยที่ปีนี้ก็วางแผนไว้ว่าจะมางานคอนเสิร์ตในไทยอีกครั้ง เลยถือโอกาสนี้ชวนทุกๆ คนซะเลย 555 จะพยายามที่สุดเพื่อที่จะซื้อใจทุกๆ คน เริ่มจากขอกลับไปหลังเวทีเพื่อจัดทรงผมใหม่ให้ดูหล่อที่สุด (อ่ะล้อเล่น) ก่อนถาม “ไม่เป็นไรเนอะ” “ไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ” (ภาษาไทย) ว่าแล้วก็แนะนำเพลงต่อไปที่เชื่อว่าเอลี่ทุกๆ คนชอบกันมากๆ เลย ส่วนใครที่ไม่ใช่เอลี่แล้วเจอเขาในงานนี้ครั้งแรกอาจจะตกใจนิดหน่อยเพราะว่า นี่ถึงเวลาแล้วที่จะโชว์ให้เห็นว่าพวกเรา (หมายถึงตัวเขาและเอลี่) ก็เต้นเก่ง ก่อนชวนทุกคนในฮอลล์ร้องและเต้นเพลง “Candy” ไปด้วยกันอย่างสนุกสนาน
จบเพลงแบคฮยอนเผยว่าตัวเขารู้สึกสนุกมาก ไม่เหนื่อยเลย นานๆ ทีได้เอเนอร์จีแบบนี้รู้สึกดีใจมาก และเพลงต่อไป Betcha ก็จะเป็นการเผยเสน่ห์ของ live performance ซึ่งเอลี่น่าจะรู้จักเพลงนี้เป็นอย่างดี และเขาก็ตั้งความหวังกับเหล่าเอลี่ในเพลงนี้เป็นอย่างมาก และนี่คือเพลงสุดท้ายของเขาแล้วอยากให้ทุกคนจอยๆ กันกับเพลง Betcha ก่อนต่อในช่วงอังกอร์ที่เจ้าตัวบอกว่าจะกลับมาหาแฟนๆ อีกครั้งในปีนี้ แต่เพลงต่อไปจะเพลงสุดท้ายแล้วที่จะมอบให้กับเหล่าเอลี่ในฮอลล์นั่นก็คือเพลง 공중정원 ที่เรียกเสียงกรี๊ดถล่มทลายสนั่นอิมแพ็ค อารีน่า เล่นเอาค่ำนั้นแฟนๆ ต่างกลับบ้านไปแบบแฮปปี้สุดๆ งานนี้ความสนุกของแต่ละโชว์คุ้มค่าเกินราคาบัตรจริงๆ
ก้าวต่อไป คงต้องจับตามมองไลน์อัพของผู้จัดค่ายน้องใหม่อย่าง “Rabbit Moon” ว่าจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เปิดมิติใหม่ๆ ให้กับวงการโชว์บิซในไทยเพื่อแฟนๆ จะได้ตื่นตาตื่นใจกันต่อไป หลังเปิดตัวครั้งแรกกับเทศกาลดนตรีเกาหลี “RABBIT TO THE MOON 2025” ก็สามารถเข้าไปอยู่ในใจแฟนๆ กันแล้ว
#RabbitMoonCorp #RabbitToTheMoon
#RabbitToTheMoon2025