L’Arc-en-Ciel กลับมาแล้วในรอบ 4 ปีครึ่งพร้อมกับเพลงใหม่ “Mirai (Future) ฉลองครบรอบ 30 ปี!

Last updated: 9 มิ.ย. 2564  | 

L’Arc-en-Ciel กลับมาแล้วในรอบ 4 ปีครึ่งพร้อมกับเพลงใหม่ “Mirai (Future) ฉลองครบรอบ 30 ปี!

               สิ้นสุดการรอคอย! L’Arc-en-Ciel กลับมาในรอบ 4 ปีครึ่งพร้อมเพลงใหม่ “Mirai (Future)” เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจัดคอนเสิร์ต 2 วันที่ Makuhari Messe International Exhibition Hall “L’APPY BIRTHDAY!” เพื่อฉลอง 30th L’Anniversary ไปกับแฟนๆ ชาร์ตเพลงกำลังแสดงให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นที่สวยงามสำหรับเพลงนี้ ทั้งการติดอันดับ 1 สำหรับ iTunes Overall Top Song Ranking และ Top Rock Song Ranking

               L’Arc-en-Ciel เป็นศิลปินที่มียอดสตรีมมากกว่า 110 ล้านสตรีมบน Spotify พร้อมฐานแฟนที่แน่นหนา พวกเขาเป็นวงที่ได้รับความนิยมทั้งในและนอกประเทศ และเคยได้จัดทัวร์ L’Arc-en-Ciel WORLD TOUR 2012 (ที่ฮ่องกง ไทย จีน ไต้หวัน อเมริกา อังกฤษ สิงค์โปร อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้) เพราะพวกเขาไม่เคยทำให้แฟนๆ ผิดหวังกับกิจกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ เหมือนกับสายรุ้งที่วาดขึ้นบนฟ้าอย่างกะทันหันที่ทำให้เราทั้งตกใจ มีความสุข และตื่นเต้นไปกับอนาคตที่สดใสตามชื่อเพลง

              นอกจากนี้แล้วเพลง “Mirai (Future)” ยังได้ถูกรับเลือกเป็นเพลงประกอบเกม Blue Protocol ซึ่งเป็นเกม RPG ออนไลน์ของค่าย Bandai Namco อีกด้วย เกม Blue Protocol นี้ได้ถูกสร้างด้วย Unreal Engine 4 สำหรับ PC ซึ่งเป็น IP แบบใหม่ที่ทำให้ได้ภาพกราฟิกที่มีความคมชัดเป็นอย่างมาก เหมือนกับอนิเมชั่นที่มีชีวิตและสามารถเล่นได้ คล้ายกับเกม RPG ที่มีเรื่องราวอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมภายใต้ค่ายเดียวกันอย่าง Ni No Kuni หรือ Swort Art Online นั่นเอง

              สำหรับคอนเสิร์ตครบรอบ 30 ปีของ L’Arc-en-Ciel นั้นพิเศษมากๆ เพราะตรงกับวันที่จัดคอนเสิร์ตครั้งแรกของวงเมื่อ 30 ปีก่อนที่จัดขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคม และระหว่างรอรับชมการแสดงก็ได้มีการแสดงข้อความยินดีจากแฟนๆ บนจอภายในฮอลคอนเสิร์ตจาก #ラルクハピバ หรือ “สุขสันต์วันเกิด L’Arc” อีกด้วย หลังจากนั้นคอนเสิร์ตก็ได้เปิดฉากขึ้นด้วยภาพการแสดงและคลิปต่างๆ ของวงตลอดเวลาที่ผ่านมา พร้อมกับที่เมมเบอร์ปรากฏตัวบนเวที

              บรรยากาศในงานห้อมล้อมไปด้วยเสียงปรบมือต้อนรับของแฟนๆ ระหว่างที่กล้องแพนไปยังแต่ละคน ทั้งสี่คนก็ได้เริ่มคอนเสิร์ตด้วยเพลง “X X X” พร้อมต่อด้วยเพลง “Caress of Venus” ซึ่งเปลี่ยนบรรยากาศในฮอลไป 180 องศาเลยก็ว่าได้ ตามด้วยเพลงฮิตของวงอย่าง “CHASE”, “winter fall” และ “flower”

              เนื่องจากคอนเสิร์ตนี้จัดขึ้นภายใต้มาตรการ COVID-19 แฟนๆ จึงไม่สามารถแสดงออกผ่านการกรี๊ดหรือส่งเสียงดังได้เหมือนปกติ เพราะแบบนี้แฟนๆ หลายคนเลยหันไปใช้ official merchandise อย่างแท่งไฟรูปไม้เบสบอลที่สามารถเปลี่ยนสีได้ หรือใช้อุปกรณ์ที่เอาไว้สร้างเสียงที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าฮอลเป็นครั้งแรกในการเชียร์แทน ถึงแม้จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่แฟนๆ ก็สามารถสร้างวิธีการสนุกสนานไปด้วยกันแบบใหม่ขึ้นมาได้ “พวกเรามีอายุ 30 ปีแล้วครับ L’Arc-en-Ciel ครับ” hyde เริ่ม “ผมดีใจมากๆ ที่สามารถมาเจอกับทุกคนได้แบบนี้อีกครั้ง พวกเราไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่เราก็ได้มาฉลอง “L’APPY BIRTHDAY!” ด้วยกันแบบนี้ได้อย่างปลอดภัย ก็ต้องขอบคุณที่มากันนะครับ”

             สำหรับ L’Arc-en-Ciel นั้น แค่การแสดงเพลงที่ฮิตที่สุดของพวกเขาก็สามารถทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นเอกลักษณ์อันไม่ธรรมดาได้ นอกจากนี้แล้วยังมีการแสดงเพลงที่ไม่ได้เห็นกันมาเป็นเวลานานอย่าง “metropolis” อีกด้วย

              ในส่วนของโปรดักชั่น ทั้งเวทีมีจอ LED ไฟเลเซอร์ และพลุที่ทำให้เกิดบรรยากาศที่ดึงดูดคนดูเข้าไปสู่โลกของ L’Arc-en-Ciel และระหว่างการแสดงเพลง “RELEVATION” ก็ได้มีการปล่อยควันและไฟออกมาจากเวทีด้วย เนื่องจากเสน่ห์ของการแสดงเพลงนี้ในอดีตเป็นเสียงเชียร์จากแฟน ๆ การแสดงในครั้งนี้จึงแตกต่างออกไปด้วยเสียงของอุปกรณ์เชียร์ต่างๆ แทน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นหนึ่งเดียวของพวกเขาน้อยลงเลย

              “Kasou” แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์อันน่าหลงใหลภายใต้แสงไฟอ่อนๆ และความลึกลับนี้ก็ได้รับการขยายเพิ่มขึ้นไปอีกกับ “EVERLASTING” ที่มีการทำให้เวทีเป็นเหมือนทะเลหมอก โซโล่กีตาร์ของ ken ตามด้วยเสียงกลองอันหนักแน่นของ yukihiro นำเราเข้าสู่โลกต่อไปของ “MY HEART DRAWS A DREAM” ซึ่งเป็นเหมือนกับเสียงที่เรียกเราให้ตื่นขึ้นมาสู่โลกแห่งแสงสว่างจากความมืด โดยปกติแล้วแฟนๆ จะร้องคลอไปด้วยกัน แต่เนื่องจากนั่นไม่สามารถทำได้ในครั้งนี้ hyde จึ่งมองแฟนๆ ด้วยแววตาที่อ่อนโยนแทน

              “Driver’s High”, “HONEY” และ “READY STEADY GO” นำเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ตด้วยจังหวะที่รวดเร็วและเร่าร้อน พร้อมกับเสียงกลองที่ไม่เคยสูญเสียความหนักแน่นของ yukihiro โดรนขนาดเล็กบินอยู่รอบๆ เมมเบอร์ ทำให้บรรยากาศในการแสดงมีความตื่นตาตื่นใจมากขึ้น และระหว่างรอเมมเบอร์คืนสู่เวทีอีกครั้ง ท่อนเปียโนในตอนต้นของ “Anata” ก็ได้เริ่มบรรเลงขึ้นพร้อมกับภาพจากคอนเสิร์ตที่ผ่านๆ มาที่แสดงให้เห็นแฟนๆ จากทั่วทุกมุมโลกร้องเพลงไปด้วยกัน จากนั้นทั้ง 4 คนก็เริ่มการแสดงขึ้นอีกครั้งพร้อมการโบกมือตามจังหวะของแฟนๆ “ถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้ แต่ความรู้สึกของพวกคุณก็ส่งมาถึงพวกเราแน่นอนครับ”

              “ใครจะไปคิดว่าคอนเสิร์ต 30 ปีของเราจะออกมาในรูปแบบนี้กัน ต่อจากนี้เราจะเล่นเพลงที่จะถูกปล่อยตอนเที่ยงคืนของวันนี้นะครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่ถูกแต่งขึ้นโดยคิดถึงพวกคุณทุกๆ คน และความจริงแล้วแผนของเราคือการร้องมันไปด้วยกันเพื่อเฉลิมฉลอง แต่เนื่องจากพวกคุณไม่สามารถร้องไปกับเราได้แล้ว แผนของเราก็เลยต้องพับไป ถ้างั้นขอให้พวกคุณช่วยเปิดไฟให้กับพวกเราได้ไหมครับ” hyde กล่าวพร้อมให้แฟนๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดไฟฉายและอธิบายว่า “ด้วยแสงของพวกคุณ ช่วยส่องแสงให้กับ ‘สายรุ้ง (L’Arc-en-Ciel)’ ด้วยนะครับ เพราะเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อเป็นความหวังในการตามหา “Mirai” (อนาคต)”

              หลังจากนั้นเพลง “Mirai” ก็ได้ถูกแสดงเป็นครั้งแรกพร้อมเนื้อเพลงที่ฉายอยู่บนจอ LED เนื้อเพลงของเพลงนี้พูดถึงการเผาความมืดมิดทั้งหมดไปแล้วรอวันใหม่ที่เปิดฉากขึ้น เหมือนกับสายรุ้งที่วาดขึ้นบนฟ้าและเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน เป็นการมุ่งไปสู่อนาคตอันสดใสที่สะท้อนถึงจิตใจของผู้คนท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันที่น่าสับสน กลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของเพลงนี้อาจจะเป็นอีกเพลงที่ทำให้ผู้คนนึกถึง L’Arc-en-Ciel ในอนาคตก็เป็นได้

              จากนั้นพวกเขาก็ได้เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการเล่นเพลงหลักจากอัลบั้มแรกอย่าง “Dune” ในเพลงนี้ hyde ได้เข้าไปบอกบางอย่างกับ tetsuya ก่อนที่ทั้งคู่จะหันไปคนละทางพร้อมๆ กัน ซึ่งทำให้แฟนๆ นึกถึงช่วงเวลาในยุคแรกๆ ของวงอย่างน่าประทับใจ

              เมื่อมองย้อนกลับไปสู่คอนเสิร์ตแรกเมื่อ 30 ปีก่อน “ผมก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าตอนนั้นรู้สึกยังไง (หัวเราะ) แต่จำได้ว่าแผนทั้งหมดเป็นความคิดของลีดเดอร์” hyde กล่าวชม tetsuya และทั้งสองคนก็พูดคุยพร้อมยิ้มไปด้วยกันถึงความหลัง “ตอนนั้นมันเริ่มจากประมาณ 300 คนหรือเปล่านะ” (hyde) “น่าจะ 200 ไหมนะ” (tetsuya)

              “วันนี้เมื่อ 30 ปีก่อนเป็นวันที่เราจัดคอนเสิร์ตแรกของเราที่โอซากะครับ มันจัดขึ้นที่ไลฟ์เฮาส์ที่ชื่อว่า Namba Rockets (*ปิดตัวลงเมื่อปี 2016) และเราก็อยากที่จะได้แสดงที่นั่นมากๆ เรามีความสุขกันมากๆ ที่มีคนมาดูเราด้วย ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีอะไรรู้สึกดีไปกว่าการที่มีคนมาชมการแสดงของพวกเราหรอกครับ” hyde กล่าวอย่างจริงใจ คล้ายกับว่าจะเทียบอดีตกับปัจจุบัน เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้ว tetsuya ก็ประกบมือเข้าด้วยกันเพื่อแสดงความขอบคุณต่อแฟนๆ วันเกิดครั้งที่ 30 นี้ไม่ใช่ปลายทางของพวกเขา แต่พวกเขา “เพิ่งเริ่มต้นขึ้นต่างหาก” hyde กล่าว

              “ขอบคุณที่รักวงที่ซึนเดเระ (ปากไม่ตรงกับใจ) วงนี้นะครับ” “มันมีวงอยู่ไม่มากที่สามารถเดินมาได้ถึง 30 ปี และพวกคุณคือคนที่พาเรามาถึงวันนี้ ขอบคุณมากๆ จริงๆ ครับ”

              เพลงต่อจากนั้นเป็นเพลง “Niji” และมีการเรียบเรียงเพลง “HAPPY BIRTHDAY” มาเชื่อมกับเพลงนี้เพื่อปิดท้ายด้วยบรรยากาศที่ร่าเริง สำหรับครั้งนี้ tetsuya ไม่ได้โยนกล้วยใส่คนดูเหมือนกับทุกที แต่การพูดว่า “ขอบคุณครับ ไว้เจอกันใหม่นะครับ” นั้นก็ยังคงเหมือนกับทุกที พวกเขาใช้ร่างกายของพวกเขาทั้งหมดเพื่อแสดงความขอบคุณต่อแฟนๆ ด้วยการวิ่งรอบเวทีพร้อมโบกมือไปด้วยอย่างมีชีวิตชีวา

              ตั้งแต่เดือนกุมพาพันธ์ของปี 2020 (ซึ่งเป็นทัวร์แรกในรอบ 8 ปีที่ต้องหยุดลงเพราะสถานการณ์ COVID-19) นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีและ 3 เดือนที่สมาชิกทุกคนได้กลับมารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้า ความทุ่มเทที่พวกเขามีทำให้มันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ทัวร์นั้นต้องหยุดลง แต่คอนเสิร์ตในครั้งนี้ก็แสดงให้เห็นว่าวงไม่ได้สูญเสียจังหวะความเป็นพวกเขาลงเลยแม้แต่น้อย และพร้อมที่จะไปข้างหน้าเสมอ

             สำหรับแฟนๆ ที่ไม่สามารถไปร่วมคอนเสิร์ตได้แต่อยากจะร่วมฉลองไปด้วยกัน L’Arc-en-Ciel ได้สัญญาแล้วว่าจะทำให้คอนเสิร์ตนี้สามารถรับชมได้ทางออนไลน์ในวันที่ 22 สิงหาคม คอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายของ L’Arc-en-Ciel แต่เป็นจุดเริ่มต้นของปีที่ 30 ของพวกเขา และถึงแม้ว่าอนาคตจะยากที่จะหยั่งถึง พวกเราจะต้องรอคอยกิจกรรมต่อๆ ไปของพวกเขาอย่างแน่นอน

ดาวน์โหลด/ฟัง : https://lnk.to/mirai

สามารถติดตาม L’Arc-en-Ciel ได้ที่
INSTAGRAM | YOUTUBE | TWITTER | SPOTIFY

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้