Last updated: 13 พ.ย. 2565 |
ปิดฉากไปแล้วกับแฟนคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทยของ “CRAVITY” (คราวิตี้) ศิลปินภายใต้สังกัด Starship Entertainment ที่ขนทัพสมาชิกทั้ง 9 คนมาสร้างเซอร์ไพรส์แฟนชาวไทยในช่วงปลายปี เพื่อเป็นของขวัญให้กับ LUVITY ชาวไทย (ลอบิตี้: ชื่อกลุ่มแฟนคลับ โดยมาจาก LUV ที่แปลว่าความรัก และตั้งให้คล้องกับชื่อวงของหนุ่ม ๆ) ในงาน “2022 CRAVITY THE FIRST FAN-CON 'CENTER OF GRAVITY' IN BANGKOK” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ณ centralwOrld LIVE ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเหล่าแฟนคลับทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศล้วนฟินกันถ้วนหน้า เพราะงานนี้สุดพิเศษได้รับสิทธิพิเศษไฮทัช (Hi-Touch) กับหนุ่มๆ ทุกที่นั่งกันไปเลย!
ซึ่งงานนี้บริษัทออแกไนซ์ชื่อดังอย่าง BEX (กรุงเทพ เอ็กซิบิชั่น) บริษัทในเครือเวิร์คพอยท์กรุ๊ป ร่วมกับ YJ PARTNERS (วายเจ พาร์ทเนอร์ส) และ PROUD2 (พราวด์ทู) ได้จัดงานในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่จัดหนักจัดเต็มทั้งเพลงเพราะๆ ที่หนุ่มๆ “CRAVITY” ขนทุกเพลงฮิตมาฝากแฟนไทยแบบจัดเต็มถึง 14 บทเพลงยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมงเต็ม!
9 หนุ่มคราวิตี้เปิดเวทีลุกเป็นไฟด้วยโชว์สเต็ปแดนซ์เท่ๆ กับเพลงจังหวะสนุกสนานอย่าง “Top of the chain” และ “Break all the Rules” เรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าลอบิตี้ได้สนั่นฮอลล์ก่อนที่จะทักทายเหล่าแฟนๆ ด้วยการแนะนำตัวเป็นภาษาไทยเรียกน้ำย่อยกันทั้ง 9 หล่อเริ่มจาก มินฮี "สวัสดีครับ ผมมินฮีครับ" / แทยอง "สวัสดีครับ ผมแทยองครับ ฝากด้วยนะครับ" / ลีดเดอร์เซริม "สวัสดีครับ ผมเซริมครับ รักนะจุ๊บๆ" / แอลรอน "สวัสดีครับ ผมแอลรอนครับ คิดถึงนะครับ" / ฮยองจุน "สวัสดีครับ ผมฮยองจุนครับ รักนะครับ" / ซองมิน "สวัสดีครับ ซองมินครับ พี่รักนะคร้าบ" / วอนจิน "สวัสดีครับ ผมวอนจินครับ คิดถึงนะคร้าบ" / อูบิน "สวัสดีครับ ผมอูบินครับ" / จองโม "สวัสดีครับ ผมจองโมคร้าบ สู้ๆ" ก่อนที่หนุ่มฮยองจุนจะเปิดใจก่อนเลยว่าในที่สุดก็ได้มาคอนเสิร์ตเดี่ยวในประเทศไทยครั้งแรกและดูร้อนแรงมากเลย วอนจินย้อนความหลังว่าเมื่อเดือนกันยายนก็เคยมาเล่นคอนเสิร์ตไปครั้งนึงแล้ว แต่ครั้งนั้นสั้นไปหน่อยก็เลยรู้สึกเสียดาย แต่ตอนนี้มีเวลาระหว่างคราวิตี้กับลอบิตี้ยาวนานมากขึ้นเลยรู้สึกดีใจมาก แอลรอนเสริมว่าก็เลยเตรียมโอเพนนิ่งโชว์ที่พิเศษมากๆ ทั้งสองเพลงมา ซึ่งเซริมบอกว่าเพลง Top of the Chain เพลงเป็นเพลงเดบิวต์อัลบั้มของพวกเขา มีความหมายมากๆ เลยเพราะเป็นเพลงเริ่มต้นของพวกเขานั่นเอง ด้านฮยองจุนปลื้มเป็นพิเศษที่เพลง Break all the Rules แฟนๆ ร้องตามกันได้เยอะมากเลย พี่อูบินของลอบิตี้ชาวไทยเลยสำทับว่าเห็นทุกคนร้องตามพวกเขาได้ ก็เลยซ้อมภาษาไทยมาเพื่อแฟนๆ ด้วยล่ะ คำว่าก็คือ "คิดถึงลอบิตี้ มากๆ เลยครับ" เรียกเสียงกรี๊ดกระจาย จากนั้นหนุ่มๆ ก็ชวนแฟนๆ ไปสนุกกันต่อกับอีก 2 บทเพลงทั้ง "Realize" และ "Veni vidi vici"
จบสองบทเพลงหนุ่มจองโมถึงกับออกปากว่าเห็นทุกคนสนุกพวกเขาก็มีพลังขึ้นมาเลย วอนจิน ไม่ลืมที่จะบอกว่าเพลงต่อไปก็จะเป็นโชว์เท่ๆ จากพวกเขาก็อยากให้กรี๊ดดังๆ ปรบมือและสนุกไปด้วยกัน ฮยองจุนเผยว่าก่อนจะเข้าบทเพลงต่อไปก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เพราะเป็นเวทีแรกในประเทศไทย เลยอยากให้ทุกคนเอนจอยไปด้วยกัน ด้านน้องเล็กซองมินอยากให้ลอบิตี้ทุกคนโอบกอดความหวังและความตื่นเต้นนี้ไว้และก็ช่วยร้องเพลงไปด้วยกันกับคราวิตี้ ก่อนจะส่งต่อสเตจให้กับเพลง “VIVID” และ “Knock Knock”
ช่วงที่ 2 ของงานแฟนคอนในครั้งนี้เริ่มต้นด้วยบทเพลงความหมายเศร้าๆ อย่าง “Breathing” ซึ่งหนุ่มแทยองบอกว่าเห็นพี่แอลรอนตอนแร็ปพาร์ทสองขึ้นมาแล้วพี่เขาซาบซึ้งมากๆ เลยนะนั่น หนุ่มแอลรอนเลยอธิบายว่าเห็นลอบิตี้ฟังเพลงของพวกเขาแล้วก็รู้สึกตื้นตัน ช่วงเวลาที่เต็มเปี่ยมระหว่างพวกเขากับลอบิตี้แบบนี้ก็อยากจะเก็บเอาไว้ในความทรงจำ ก่อนจะกล่าว "ขอบคุณครับ" เป็นภาษาไทย ก่อนที่หนุ่มซองมินจะชวนเข้าสู่ช่วงต่อไป แต่หนุ่มฮยองจุนช่างสังเกตบอกว่าลอบิตี้ในฮอลล์ตอบกลับพวกเขาเป็นภาษาเกาหลีว่า "เน" ด้วยล่ะ พวกเขาตอบกลับว่า "ครับ" แต่แฟนๆ ส่งกลับมาว่า "เน" ซะงั้น 555 ก่อนที่หนุ่มหล่อมินฮีจะเอ่ยปากชมว่าแฟนๆ ชาวไทยพูดภาษาเกาหลีเก่งมากเลยนะ น่ารักที่สุดเลย (ปากหวานจริงๆ) จากนั้นก็ถึงช่วงที่คราวิตี้กับลอบิตี้จะได้เล่นเกมสนุกๆ ไปด้วยกัน
เข้าสู่ช่วงเล่นเกม “CENTER OF LUVITY” ที่ 9 หนุ่มคราวิตี้ได้แบ่งเป็น 3 ทีมๆ ละ 3 คน เล่น 2 เกมแล้วเอาคะแนนมารวมกัน คะแนนน้อยที่สุดจะโดนลงโทษ 9 หนุ่มจัดการแบ่งกันเองเสร็จสรรพ ได้มาเป็น ทีมพี่ (อูบิน-มินฮี-เซริม) ทีมน้อง (ฮยองจุน-แอลรอน-ซองมิน) และทีมหล่อเท่ (แทยอง-จองโม-วอนจิน) โดยเกมแรกก็คือเกมใบ้คำด้วยท่าทาง โดยจะมีตัวแทนทีมละ 1 คนมาใบ้คำที่อยู่บนจอแอลอีดี ส่วนอีก 2 คนให้ทายว่าคืออะไร มี 10 ภาพใน 1 รอบ และมีเวลาให้ 1 นาที และในฐานะพี่ มินฮีขอเล่นทีมแรก ส่วนทีมน้องเล่นทีมที่ 2 ทีมหล่อเท่ เล่นสุดท้าย ซึ่งคำเด็ดๆ ก็มีอย่าง "แตงโมปั่น" ที่มินฮีทายได้อย่างรวดเร็ว หรือจาก 'ทีมน้อง' ที่ได้คำยากๆ เช่นยิมนาสติก / แม่กุญแจ ต่อด้วยทีมหล่อเท่ เจอคำยากๆ เหมือนกันทั้ง ดาวตก / อันซองมิน / แฟชั่นโชว์ ที่หนุ่มจองโมสวมบทบาทโมเดลบนรันเวย์ได้อย่างสุดเท่ รวมไปถึงคำอย่าง แผ่นโน้ตเพลง / ทีวี / แว่นครอบตา สรุปแล้วทีมหล่อเท่ได้ 5 คะแนน ทีมพี่ 3 คะแนน และทีมน้อง 4 คะแนน ทีมหล่อเท่ชนะไปทำเอาหนุ่มจองโมอดขิงไม่ได้ว่าของมันแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนแทยองแอบแซวทีมพี่ว่า "แล้วทีมโหล่ว่าไงครับ" ซึ่งมินฮีบอกว่าเป็นพี่ก็ต้องยอมน้องเป็นธรรมดา แทยองเลยบอกแต่อายุห่างกันแค่ปีเดียวไม่ใช่เหรอ (พี่มินฮี)? 55 เซริมกับวอนจินเลยบอกว่าเกมหน้าไม่ยอมแล้วนะ
จากนั้นก็มาประลองไหวพริบกันอีกเกมกับเกม 'ทายเพลง' กติกาคือเปิดอินโทรเพลง 1 วินาทีแล้วให้ทายว่าเป็นเพลงอะไรแล้วก็ต้องมาโชว์สเต็ปแดนซ์เพลงนั้นด้วย แทยอง ย้ำว่าเริ่มจากที่โหล่นะครับ (ตอกย้ำกันเข้าไป 555) ซึ่งอินโทรเพลงแรกขึ้นมามินฮีตอบได้เลยว่าเป็นเพลง DRAMARAMA ของ MONSTA X ก่อนโชว์สเต็ปสุดเป๊ะให้แฟนๆ กรีดร้อง ส่วนเพลงสอง ทีมน้องหนุ่มแอลรอนตอบได้เลยว่า Pow ของ Cravity เองและเต้นให้ดู แต่โดนแซวว่าสามคนเต้นไม่ตรงกันเลยให้ทีมหล่อเท่เต้นให้ดูบ้าง กลายเป็นว่าทีมนึงทายถูกแต่คะแนนในการเต้นไหลไปที่อีกทีมเพราะลีลาการเต้นซะงั้น ส่วนเพลงสาม มินฮี ทีมพี่ ตอบถูกว่าเป็นเพลง Rush Hour ของ Crush ว่าแล้วทีมพี่ก็เต้นให้ดู ฮยองจุน บอกว่าผมสามารถเต้นได้ดีกว่านี้อีก แต่แทยองบอกว่าขอทีมผมเต้นบ้างว่าแล้วก็ขอโชว์ลีลาสุดพลิ้ว แต่สรุปก็คือทีมน้องชนะไป มาถึงเพลงที่ 4 ฮยองจุนตอบถูกว่าเป็นเพลง Fantasia ของ MONSTA X ว่าแล้วทีมน้องก็โชว์ลีลาแดนซ์ให้ดู ส่วนเพลงที่ 5 อูบิน ตอบถูกว่าเป็นเพลง Very Nice ของ SEVENTEEN ทีมพี่เลยออกไปเต้นโชว์ แต่ทีมหล่อเท่ที่ขอเต้นด้วยแดนซ์ได้เท่และแข็งแรงมากๆ เลยได้เสียงโหวตให้ชนะไป เล่นเอาทีมพี่โอดว่าทีมเราทายถูกแต่คะแนนให้คนอื่นหมดเลย นี่แหละพี่ที่แท้ทรู 555 รวมผลลัพธ์ปรากฏว่าทีมพี่ได้คะแนนน้อยสุด มินฮี เผยว่ารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไรเพราะรู้สึกว่าบทลงโทษมันจะน่ารักๆ นี่นา ทั้งนี้บทลงโทษที่ว่าก็คือแต่งตัวให้ทีมพี่ ผลที่ได้ก็คือ 'จากพี่กลายเป็นน้อง' เมื่อ 3 หนุ่มได้ใส่แว่นตาและที่คาดผมรูปทรงแปลกๆ แต่เมื่ออยู่บนใบหน้าของ 3 พี่ก็ดูน่ารักอยู่ดี แต่สำหรับหนุ่มมินฮีที่ใส่แว่นเอเลี่ยนแถมขอที่คาดคาดผม น้องๆ แซวว่าพี่มินฮีเหมือนแมลงวันเลย เรียกว่าได้รับเสียงกรี๊ดจากลอบิตี้แรงมาก เพราะจากพี่ที่เท่ๆ กลายเป็นน้องๆ ตัวเล็กน่ารักไปเลย ลงโทษกันไปเสร็จสรรพ จองโมก็บอกว่าอยากเล่นเกมอีกจังเลย เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว ลอบิตี้ไทยดูเอ็นจอยกันมากๆ เลย ก่อนที่ซองมินจะเชิญชวนเข้าสู่บทเพลงต่อไปที่ที่คราวิตี้อยากร้องให้ลอบิตี้ซึ่งนั่นก็คือเพลง "Maybe Baby” จากนั้นก็สนุกสนานกันต่อด้วยเพลง “Boogie Woogie” และ “Cloud 9”
พักพูดคุยกับเหล่าลอบิตี้กันอีกครั้ง โดยหนุ่มแทยองบอกว่าเพลง “Cloud 9” ทุกคนร้องตามกันเยอะมากเลย มินฮีเสริมว่า ไม่เคยโชว์เพลงพวกนี้ที่ประเทศไทยเลยนะ แต่ทุกคนร้องตามได้ซ้อมกันมาเหรอครับทุกคน! ก่อนที่หนุ่มแอลรอนจะถามว่าระหว่างเพลง “Cloud 9” กับ “Boogie Woogie” เจ้าตัวพูดว่า "พร้อมกัน" ด้วยนะ ทุกคนได้ยินกันหรือเปล่า? แทยอง ชมว่าลอบิตี้ทุกคนเอนจอยกับโชว์ของพวกเขามากๆ ทุกคนดูมีพลังก็เลยรู้สึกขอบคุณมากๆ ยังมีโชว์เหลืออีกมากมายเลย ระหว่างนี้มาเติมพลังงานกันดีกว่า แฟนๆ เลยบอกให้ช่วยทำแอกโย หรือท่าอ้อนน่ารักๆ ให้ดูหน่อยได้มั้ย หนุ่มๆ เลยจัดให้ทั้งท่าอ้อนสไตล์น่ารักๆ ของจองโม หรือจะเป็นการทำท่ากูกู กากา ~ แบบสุดคิวท์ที่เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นของมินฮี, แทยอง, ซองมิน และแอลรอน ทำไปเขินไปก่อนถามว่าชอบกันจริงๆ ปะเนี่ย??? 555 จากนั้น
แทยอง ก็ชวนพูดถึงเมืองไทยกันดีกว่าเพราะไหนๆ ก็มาเล่นคอนเสิร์ตถึงที่นี่แล้ว มินฮี บอกว่า ปูผัดผงกะหรี่ อร่อยมากเลยครับ ส่วนจองโม เผยว่ากินแตงโมปั่นวันละแก้ว ไม่คิดว่าจะรักแตงโมได้ขนาดนี้ แทยอง เสริมว่าแตงโมที่เกาหลีก็ไม่ใช่แบบนี้ แตงโมปั่นสุดยอดเลยครับ ว่างั้น ส่วนซองมิน ขอพูดถึงลอบิตี้ไทยที่ให้การต้อนรับดีมากเลยไม่ว่าจะเป็นที่สนามบินหรือที่งานแถลงข่าว จากนั้นก็ถึงคิวหนุ่มๆ โชว์ภาษาไทยเริ่มจาก เซริม "หวานกว่าไอติม ก็รอยยิ้มเธอ" / อูบิน "ไปลอยกระทงกับพี่มั้ย" / ฮยองจุน "ลอบิตี้ มีความสุขมากๆ นะครับ" / วอนจิน "ไปกินแตงโมปั่นกับผมมั้ย" และเซริมขอแถมอีกประโยคว่า "ลอบิตี้ น่ารักเกินปุยมุ้ย" / ซองมิน "กินข้าวยังครับ" / มินฮี "งานไม่ใหญ่แน่นะวิ?" / แอลรอน "แอลรอนน่ารักมั้ยครับ" / แทยอง "ลอบิตี้ น่ารักเกินปุยมุ้ย" และ จองโม "ลอบิตี้ มีความสุขมากๆ นะครับ" และแฟนคอนครั้งนี้ยังได้ฟังเสียงร้องสดๆ ของหนุ่มอูบินในเพลง Colorful อีกด้วย ซึ่งลอบิตี้ไทยก็ร้องเพลงนี้คลอตามไปกับพี่อูบินของพวกเขาทำเอาเพื่อนๆ ในวงทึ่งไปตามๆ กัน จากนั้นเซริม ก็ชวนแฟนๆ ไปต่อกับบทเพลงสนุกๆ ที่ลอบิตี้ทุกคนสามารถเอนจอยกันได้อย่าง “JUMPER” และ “Adrenaline”
จบเพลงแอลรอนถึงกับออกปากชมว่าเห็นความพร้อมและความตั้งใจของทุกคนมากๆ เลย ด้านแทยองกล่าวเสริมว่าพวกเขาตื่นเต้นมากๆ เตรียมตัวกันมาเยอะเพื่อลอบิตี้ชาวไทยและแฟนๆ ก็ดูเอนจอยกันมากเลย รอบหน้าก็จะมาอีก ทำเอาสาวๆ ลอบิตี้กรี๊ดสนั่น ลีดเดอร์เซริมยังบอกว่าระหว่างที่โชว์พวกเขามีความสุขมากๆ เลย ส่วนอูบินตื้นตันสุดๆ กล่าวขอบคุณความรักจากลอบิตี้ไทยอีกครั้ง พร้อมเผยตอนแรกไม่คาดหวังว่าจะร้องเพลง Colorful เลยนะ ซาบซึ้งจริงๆ เลย เพื่อนๆ เลยขอให้ร้องอีกครั้ง พี่อูบินจัดให้เสิร์ฟ Colorful ให้ฟังอีกรอบโดยที่ลอบิตี้ในฮอลล์ไม่ลืมที่จะร้องคลอไปด้วย ทำเอาเจ้าตัวปลาบปลื้มสุดๆ ก่อนที่มินฮีจะบอกว่าน่าเสียดายเพราะเหลือเพลงสุดท้ายแล้ว วันนี้เวลาผ่านไปเร็วมากๆ เพราะมันสนุกมากๆ CENTER OF GRAVITY ทำให้ได้เจอกับทุกๆ คน รู้สึกมีความสุขมากๆ เพราะความรักของลอบิตี้ ซองมินไม่ลืมที่จะอ้อนว่าอยากให้ทุกคนสัญญาว่าโอกาสหน้าก็จะมาดูกันอีกนะ ก่อนที่จะเข้าสู่บทเพลงสุดท้ายอย่าง "Party Rock" เพลงจังหวะสนุกๆ ที่แฟนคลับทั้งฮอลล์ร่วมกันร้องไปพร้อมกันเสียงดังสนั่น มีการแอบโชว์ซิกซ์แพคเบาๆ ของหนุ่มๆ บางคน อย่างดาร์คชอคโกแลตของแทยองรวมไปถึงเซริมโดยเพลงนี้ยังมีโปรเจ็กต์เปิดแหวนไฟหลากสีโบกไปตามจังหวะเพลงตั้งแต่เริ่มจนจบเพลงอีกด้วย
จบเพลง Party Rock หนุ่มๆ ลงจากเวทีไป แต่ลอบิตี้ไม่ยอมส่งเสียงอังกอร์เรียก “คราวิตี้” กันทั้งฮอลล์ หนุ่มๆ จึงกลับมาด้วยภาพลักษณ์สุดสดใส เซอร์ไพรส์ด้วยช่วงที่ 3 ของคอนเสิร์ตซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายจริงๆ กับบทเพลงอย่าง “Hot Air Balloon” จบเพลงมินฮีประทับใจแฟนๆ สุดๆ ถึงกับอกว่าความร้อนแรงของลอบิตี้ไทยคือ “Hot Air Balloon” โดยที่แอลรอนไม่ลืมที่จะขอบคุณอีเวนท์ที่แฟนๆ เตรียมไว้ให้ ก่อนที่ฮยองจุนจะชวนแฟนๆ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่โดนลอบิตี้เซอร์ไพรส์ด้วย VCR จากแฟนๆ เป็นคลิปวีดิโอผลงานของทั้ง 9 หนุ่มเล่นเอาซาบซึ้งสุดๆ ดูไปก็ร้องไห้ไป ก่อนหันมาเจอโปรเจ็กต์ที่ลอบิตี้ไทยเตรียมไว้ให้และข้อความว่ารอคอยคราวิตี้ทั้ง 9 คนนานถึง 936 วัน ทำเอาตื้นตันยิ่งขึ้นไปอีกกับความความตั้งใจของแฟนๆ งานนี้หนุ่มๆ ถึงกับออกปากว่าร้องไห้เลยล่ะ ขอบคุณทุกคนจริงๆ แต่ต้องถึงเวลาอำลาจริงๆ แล้ว และถือโอกาสบอกความรู้สึกถึงลอบิตี้ชาวไทยกันทีละคนเริ่มจาก
มินฮี "ในที่สุด คราวิตี้ก็ได้มาเมืองไทยแล้วนะครับ เราได้รับอีเวนท์ที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ อยากจะบอกว่ารักอีกครั้งนะครับ ถ้าลอบิตี้ยังรอพวกผมอยู่เดี๋ยวพวกผมจะมาอีกครั้งนะครับ ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพกันดีๆ กันนะครับ ซารังแฮโย"
แทยอง "เข้าใจว่ารอนานมากเลยจริงๆ ตอนแรกก็รู้สึกปวดใจมากเลยที่เห็นประโยคว่าเฝ้ารอมา 936 วัน รอนานขนาดนั้นเลยจริงๆ อยากจะบอกว่าขอบคุณนะครับที่รักพวกเราแม้จะไม่ได้เจอกันเลย เราอยากจะบอกว่ารักทุกคน ซารังแฮโย รักนะคร้าบ"
เซริม "ผมไม่รู้จริงๆ ไม่ได้คาดหวัง ก็เลยตกใจมากๆ เลย เข้าใจว่าลอบิตี้ทุกคนรอคราวิตี้มานานมาก เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่รู้สึกขอบคุณมากๆ จริงๆ ต้องขอบคุณที่สร้างความทรงจำดีๆ สร้างความสุขให้กับคราวิตี้ ก็อย่างที่คุณแทยองบอกไปว่า รอมานานมาก หลังจากนี้ก็ขอให้ความสุขอย่างนี้ด้วยกันนะครับ เราก็ผ่านช่วงเวลาลำบากด้วยกันมามาก พวกเราก็บอกเมมเบอร์กันว่าเราจะสู้ๆ ต่อไปและสร้างความสุขด้วยกันแบบนี้ต่อไป 'ลอบิตี้ รักนะคร้าบ ซารังแฮ'"
แอลรอน "เมื่อวานได้เม้าท์กับคุณอูบินไปว่า นึกถึงเรื่องนึงขึ้นมา คราวิตี้ของเรามาได้ไกลมากจริงๆ ตั้งแต่ช่วงเดบิวต์มาพวกเราก็วิ่งและทำงานกันมาไม่หยุด ทุกอย่างผ่านไปเร็วมากๆ เลย ช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกเราไม่ได้เจอกันใกล้ชิดเลยแต่ว่าขอบคุณทุกคนที่คอยเชียร์อยู่ห่างๆ แต่ว่าถึงวันนี้ก็ได้มาเจอกันอย่างใกล้ชิด ก็ขอบคุณมากๆ จริงๆ นะครับ ในระยะเวลา 936 วันพวกเราไม่มีโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดเลยจริงๆ ถึงอย่างนั้นพวกคุณก็ไม่ทิ้งพวกเรา คอยเชียร์ คอยรอพวกเราจนถึงวันนี้ ต้องขอบคุณและขอบคุณจริงๆ ครับผม 'ขอบคุณครับ นักนะครับ'"
ฮยองจุน "ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกคนที่มาครั้งนี้นะครับ ผมรู้สึกว่าถึงแม้ภาษาพวกเราจะต่างกัน แต่ด้วยเพลง ด้วยสายตา ด้วยใจของพวกเรามันกลายเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ผมก็เชื่อว่าลอบิตี้ทุกคนก็คิดเช่นนั้นและผมก็ขอบคุณมากๆ ที่สร้างความทรงจำดีๆ ให้พวกเราในครั้งนี้นะครับ ซารังแฮ"
ซองมิน "แค่มาก็ขอบคุณมากๆ แล้ว แต่ขอบคุณจริงๆ เลยที่เตรียมอีเวนท์ในครั้งนี้ไว้ให้ด้วย ผมมีความสุขมากที่ได้เจอลอบิตี้ชาวไทยในครั้งนี้ ทุกคนสนุกมั้ยครับ หลังจากนี้พวกเราก็จะสร้างช่วงเวลาดีๆ สร้างความทรงจำดีๆ อย่างนี้ด้วยกันต่อไปนะครับ หลังจากนี้ก็เชียร์พวกเราคราวิตี้ด้วยนะครับ อย่าลืมนะครับว่าพวกเรารักแฟนๆ ทุกคนนะครับ 'ซารังแฮโย'"
วอนจิน "ถึงแม้จะอยู่ห่างกัน แต่สิ่งที่ลอบิตี้ให้มามันมากมายเหลือเกิน วันนี้พวกเราคิดว่าจะให้ทุกอย่างกับลอบิตี้ แต่เราก็ดีใจมากที่ได้รับของขวัญพิเศษจากลอบิตี้ เดี๋ยวเราจะตั้งใจมากขึ้นและจะกลับมาอีกครั้งนะครับ ก็อยากให้ทุกคนรอและอยู่เคียงข้างพวกเราด้วยนะครับ "รักนะคร้าบ"
อูบิน "ตอนนี้มีความสุขมากเลยครับ ตอนนี้ผมรู้สึกใจตื่นเต้นมากเลย โดยปกติเมมเบอร์ทุกคนจะรู้ว่าผมไม่ค่อยอินอะไรมากเท่าไหร่ ปกติเอเนอร์จี้ผมจะไม่ค่อยขึ้นเยอะมากเท่าไหร่ เพื่อนๆ จะรู้ดี แต่วันนี้เป็นหนึ่งวันที่ใจตื้นตันมากๆ เลยครับ ผมอยากจะบอกว่าขอบคุณลอบิตี้ชาวไทยทุกคนที่มอบความสุขให้กับพวกผม อย่างที่ดูคลิปไปเมื่อกี๊ ขอบคุณทุกคนที่รอจนถึงวันนี้นะครับ เกือบจะร้องแล้วแต่ไม่ได้ร้องนะครับ รักนะครับ"
จองโม "ขอบคุณลอบิตี้ทุกคนตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงด้านหลังสุดนะครับ เราได้เอเนอร์จี้เยอะมากเลยกับการโชว์ครั้งที่แล้วที่ผ่านมา และรอบนี้เราได้มอบให้ทุกคนแล้ว ตั้งแต่ที่เปิดไฟเซอร์ไพรส์และก็อีเวนท์เมื่อกี๊ ผมรู้สึกว่าพวกเราได้รับมากกว่าที่ให้ไป ขอบคุณทุกคนนะครับ แล้วพวกเราจะส่งกลับไปให้เป็นทวีคูณ มีความสุขมากๆ นะครับ แล้วเจอกันอีกนะครับ 'รักนะครับ ซารังแฮ'"
ก่อนที่เซริมจะบอกว่า ขอมอบเพลงสุดท้ายจริงๆ แล้วนะก่อนจะอำลากันไปด้วยคำว่า "โคมาวอโย ขอบคุณครับ" ปิดท้ายด้วยเพลง “Late Night” สนุกจุใจแบบสุดๆ เพราะได้ฟังทุกเพลงฮิต ใกล้ชิดกว่าครั้งไหนๆ แถมหนุ่มๆ ยังไฮทัชกับแฟนๆ ส่งท้ายกลับบ้านทุกที่นั่ง! นับเป็นความสำเร็จก้าวแรกของ 9 หนุ่มกับแฟนคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทยที่ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ เสียงกรี๊ดเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาการแสดง ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำว่าแม้ “CRAVITY” จะไม่ได้มาประเทศไทยบ่อยๆ แต่ลอบิตี้ชาวไทยจะพร้อมให้การต้อนรับอยู่เสมอแน่นอน
และหากไม่อยากพลาดทุกความเคลื่อนไหวของผู้จัดงาน สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทุกช่องทางออนไลน์ที่ Official Facebook : BEXConcert / Twitter: @BEX_Concert