Last updated: 16 ก.ย. 2565 |
เต็มอิ่มไปด้วยความสุขตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม กับสีสันและความหลากหลายทางดนตรี ที่ WOODZ (วู้ดจึ หรือ โช ซึงยอน) เตรียมมามอบให้กับ MOODZ ชาวไทย (มู้ดจึ : ชื่อแฟนคลับของวู้ดดึอย่างเป็นทางการ) ในคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกของเขาในประเทศไทย WOODZ LIVE "COLORFUL TRAUMA" in BANGKOK ที่จัดขึ้น ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา
WOODZ เปิดตัวด้วยความมันส์เต็มรูปแบบ มาพร้อมกับ LIVE BAND ที่ทำให้ทั้งฮอลล์กระหึ่มไปด้วยพลังแห่งเสียงเพลงและดนตรีที่หนักแน่น แถมชุดที่มีกระโปรงที่เลือกมาในการเปิดตัวก็เป็นอะไรที่ทั้งเท่และน่ารัก ซึ่งโชว์แรกของพ่อหนุ่มคนนี้มาพร้อมด้วยสีน้ำเงินจากอัลบั้ม COLORFUL TRAUMA (คัลเลอร์ฟูล ทรามา) กับเพลง Dirt on my Leather และ HIJACK ก่อนที่เขาจะทักทายชาว MOODZ ที่ส่งเสียงเชียร์ร้อนแรงตั้งแต่ออกสตาร์ท
เจ้าตัวบอกวันนี้เปิดตัวมาก็สนุกมากๆ เลย แรงเชียร์ของชาวไทยนี่สุดยอดจริงๆ เลย เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้มาแสดงเดี่ยวที่กรุงเทพฯ ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกกังวลแต่รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ก่อนจะถามว่ามีใครเคยเจอเค้าครั้งแรกบ้าง ในที่สุดวันนี้เราก็ได้เจอกันแล้วนะทุกคน ดีมากๆ เลย พร้อมเฉลยความลับว่าตามสคริปต์บอกว่าเขาต้องพูดอะไรบางอย่างซึ่งตัวเขานั้นอายมากเลยที่ต้องพูดอะไรแบบนี้ แต่ในเมื่อเขียนมาแล้วก็ต้องพูด "หล่อกว่าใช่มั้ยครับ" ว่าแล้วก็หัวเราะร่วนก่อนบอกต่อว่า ปกติแล้วเป็นคนชอบเที่ยว ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่อยากมาเที่ยวมากๆ เลย อยากไปหลายๆ ที่และก็อยากทานอาหารอร่อยๆ โดยเฉพาะปูผัดผงกะหรี่ ชอบมากๆ เลย พร้อมกันนี้ก็โชว์พูดไทยทั้ง "ผมชอบปูผัดผงกะหรี่ และผัดไทยมากครับ ชอบมากๆ เลย" พร้อมบอกได้มาเล่นคอนเสิร์ตในประเทศไทยที่เต็มไปด้วยสิ่งที่ชอบแบบนี้ ก็จะตั้งใจทำคอนเสิร์ตให้เต็มที่เลย ตอนอยู่เกาหลีได้ยินว่าคอนเสิร์ตวันนี้โซลเอาท์ก็ดีใจมากๆ พร้อมย้ำคำขอบคุณซะหลายครั้ง และบอกต่อว่าตอนที่ได้ยินข่าวนี้ตอนอยู่เกาหลี ดีใจและตื่นเต้นมากๆ จนบอกทีมงานเลยว่าเรามาก่อนสัปดาห์นึงเลยได้มั้ย ในที่สุดก็ได้มาเมืองไทยแล้ว นอนไม่หลับเลยอาทิตย์นึง
เจ้าตัวยังเผยว่า คอนเสิร์ตวันนี้ชื่อ Colorful Trauma นอกจากจะเป็นชื่อคอนเสิร์ตแล้วยังเป็นชื่อเดียวกับอัลบั้มที่เขาเพิ่งปล่อยออกมาด้วย วันนี้ก็เลยเตรียมการแสดงที่มีสีสันหลากหลายมาให้ตรงกับชื่องาน คิดว่าจะทำยังไงให้การแสดงมีสีสันหลากหลาย ก็เลยคิดว่าปกติแล้วเวลาไปเทศกาลดนตรีเราก็จะได้ฟังทั้งดนตรีร็อค บัลลาด แดนซ์ ฮิพฮอพ เพราะฉะนั้นคอนเซ็ปต์ของวันนี้ ก็คือ Woodz Festival ก่อนถามมู้ดจึว่าปกติถ้าพูดถึง Festival จะนึกถึงอะไร ถ้าเป็นเจ้าตัวก็จะนึกถึงสิ่งนี้ว่าแล้วเคาน์เตอร์บาร์ก็ถูกเข็นขึ้นมาบนเวทีโดยบุคคลนึงที่หนุ่ม WOODZ แนะนำว่าเป็นบาร์เทนเดอร์อันดับ 1 ของเกาหลีที่เล่นเบสเป็นงานอดิเรก ใช่แล้ว หนุ่มคนที่ว่าก็คือมือเบสของวงดนตรีที่เล่นสดในงานวันนี้นั่นเอง ว่าแล้วเจ้าของงานก็รีเควสต์เครื่องดื่มค็อกเทลโมฮิโตก่อนชวน MOODZ ชนแก้ว "สักแก้วไหม" (ภาษาไทย)
จากนั้น WOODZ ก็พาชาว MOODZ ทะยานสู่ความสนุกไปกับเขาต่อใน WOODZ Festival กับเพลง Waikiki จากอัลบั้ม Equal ต่อด้วย POOL ซึ่งเพลงนี้มู้ดจึมีโปรเจ็กต์ให้ WOODZ ด้วยแบนเนอร์ที่เขียนว่า "무즈는 아무리 많은 폭풍우가 지나도 우즈처럼 큰 나무를 안아줄 게요 (ไม่ว่ากี่พายุฝนจะผันผ่าน พวกเราก็จะโอบกอดต้นไม้ที่ยิ่งใหญ่อย่างวู้ดจึเอาไว้เอง) ทำเอาเจ้าของงานเกือบมีน้ำตาตั้งแต่ต้นงานเลยทีเดียว ซึ่งพอจบเพลงเจ้าบอกขอบคุณสำหรับโปรเจ็กต์พร้อมชมสวยมากๆ เลย คอนเสิร์ตคราวนี้เขามาเดี่ยว ก็แอบคิดว่าเดี๋ยวใกล้จบคงมีอีเวนท์ให้ แต่ทุกคนเริ่มตอนนี้เลย จู่โจมตอนนี้เลย ชอบมากเลย ขอบคุณนะครับ ก่อนบอกว่าทุกครั้งเวลามีสเตจเพลง POOL ในคอนเสิร์ตดูเหมือนทุกคนจะชอบกันมากๆ ปกติสเตจเพลง POOL ก็จะทำเหมือนเล่นอยู่ในน้่ำ แต่วันนี้ได้มาแสดงต่อหน้าทุกคนก็รู้สึกแตกต่างออกไปดี พร้อมบอกพอได้ออกไปเพอร์ฟอร์มตรงเวทีที่ยื่นออกมาก็ได้เห็นทุกคนในฮอลล์นี้ และเวทีที่ยื่นนั้นก็มาจากไอเดียของเจ้าตัวด้วยเพราะอยากเข้าไปไกล้ทุกคน แนวขวางก็ออกมายาวมาก แนวตั้งก็ยาวมาก ออกมาเป๊ะเหมือนที่คิดไว้เลย ก่อนขอบคุณทีมงานที่เนรมิตรเวทีในฝันได้ ว่าแล้วก็ชวนทุกคนเข้าสู่เวทีต่อไปที่จะเปลี่ยนบรรยากาศกันนิดนึง
ว่าแล้วก็เข้าสู่เวทีต่อไปในเพลง FEEL LIKE และ WAITING ที่ถูกปรับจากเพลงแดนซ์มาอยู่ในเวอร์ชั่น LIVE BAND เพราะอยากให้ MOODZ ชาวไทยได้ฟังดนตรีกันสดๆ โดยเจ้าตัวขนทีมนักดนตรีมาจากประเทศเกาหลีเพื่อมู้ดจึไทยโดยเฉพาะ โดยพอจบเพลงเจ้าตัวบอกว่าความจริงเพลงที่ได้ยินเมื่อกี๊นั้นมีท่าเต้นด้วยนะ แต่เพื่อปรับให้เข้ากับคอนเซ็ปต์เฟสติวัลก็เลยเตรียมเวอร์ชั่นพิเศษมาเพื่อทุกคน เป็นเวอร์ชั่นแบนด์ ถ้าพูดถึงเฟสติวัลก็จะนึกถึงวงดนตรี อยากให้ทุกคนได้ฟังกันสดๆ ก็เลยพาแบนด์มากรุงเทพฯ ด้วยกันเลย เป็นสุดยอดฝีมือแห่งเกาหลีทั้งนั้นเลย ว่าแล้วก็แนะนำสมาชิกในแบนด์ คนแรกที่เจ้าตัวแอบกระเซ้าว่าเป็นคนทำค็อกเทลเบอร์หนึ่งของเกาหลี บาร์เทนเดอร์เบอร์หนึ่งของเกาหลี นั่นก็คือมือเบสซึงโฮ ก่อนที่น้องซึงยอนจะให้พี่ซึงโฮของเขาแนะนำตัวพร้อมโชว์เล่นเบสเล็กน้อย คนต่อมาก็คือจินฮุน มือกลอง ที่เจ้าตัวแนะนำตัวเป็นภาษาไทยชัดเจนว่า "สวัสดีคร้าบ จินฮุนคร้าบ ขอบคุณคร้าบ" คนนี้ WOODZ พรีเซนต์ว่าเป็นพี่ชายที่ชอบประเทศไทยเหมือนตัวเขาเลย เมื่อวานได้ลองไปทานอาหารตามร้านสะดวกซื้อกันมาด้วย พี่จินฮุนรู้จักหลายอย่างมาก ได้ลองกินซาลาเปาที่เหมือนมีผักชีอยู่ข้างใน (น่าจะเป็นกุยช่าย) ลองกินแล้วอร่อยมากเลย ว่าแล้วก็ให้โชว์ตีกลองเล็กน้อย มาถึงทงมิน มือคีย์บอร์ด ที่ WOODZ บอกว่าพี่ทงมินเป็นคนขี้อายนิดหน่อย จุดนี้เจ้าของงานอยากจะเล่นมุขด้วยการถามมู้ดจึว่าทุกคนปิดเสียงโทรศัพท์เป็นระบบสั่นกันแล้วใช่มั้ย ว่าแล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เจ้าตัวรีบแอ๊บถามว่า "แต่ทำไมยังได้ยิน นี่เสียงโทรศัพท์ของใคร ปิดมือถือกันหรือยัง" ปรากฏว่ามู้ดจึไม่ค่อยเก็ตมุข เจ้าตัวเลยบอก "เตรียมมาแล้วแต่มันไม่ค่อยปังเท่าไหร่นะครับ" มุขแป๊กไปแล้วหนึ่ง (555) มาถึงมือกีตาร์ WOODZ บอกว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนเล่นกีตาร์ในเพลงประมาณ 95% ของเพลงทั้งหมดของเขาและก็ทำเพลงกับเขาด้วยนั่นก็คือ มือกีตาร์โฮโฮ ว่าแล้วก็ให้ช่วยโชว์ให้ฟัง เสร็จแล้วบอกเท่มากจริงๆ
จากนั้น WOODZ ก็ชวน MOODZ เปลี่ยนบรรยากาศกันอีกสักเล็กน้อย เพราะดนตรีของเขาค่อนข้างมีสีสันที่หลากหลาย มีทั้งเพลงที่เหมือนกับสีเหลืองที่สดใส และก็สีน้ำเงินที่สดชื่นด้วย คราวนี้ก็เลยจะลองแสดงเพลงที่เป็นสีที่ Deep กว่านั้นหน่อย กับช่วงเวลาจมดิ่งไปกับสีเทาและดำในเพลง Touche และ DIFFERENT ที่หลายคนประทับใจกับสเตจน้ำทะเลกับพระอาทิตย์ตกดินที่แสงสีสวยงามสุดๆ หลังจากนั้น WOODZ ก็ปล่อยให้ชาว MOODZ ปรับอารมณ์ด้วย VCR ที่โชว์ความชิค ความคิ้วท์ กับการค้นหาเสน่ห์ที่หลากหลายของ WOODZ ด้วยการตอบคำถามโดยเลือกสีที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น อารมณ์ในวันนี้ (เจ้าตัวเลือกสีขาว) เพราะอารมณ์ของเขาอยู่ในสภาพขาวสะอาด ยังไม่มีอะไรแต่งแต้มลงไป เป็นสีขาวตามธรรมชาติ, อธิบายคอนเสิร์ตเดี่ยวในประเทศไทยครั้งแรกในชีวิตด้วยสี (สีแดง) เพราะเคยมาแสดงที่ประเทศไทยอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะครั้งไหนๆ ความรักก็ยังคงเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ ได้ยินมาว่าทุกคนซื้อบัตรจนหมดเกลี้ยงเลย ทำให้ตอนนี้เจ้าตัวเตรียมงานอย่างอารมณ์ดีสุดๆ เลย ก่อนถาม "พร้อมรึยังจ๊ะ?" เป็นภาษาไทย, เวลาที่ได้กินของอร่อยๆ WOODZ รู้สึกยังไง (สีชมพู) เจ้าตัวบอกว่าพอได้กินของอร่อยๆ แล้วจะมีความสุขสุดๆ แต่ถ้ากินหมดแล้วก็อาจจะกลายเป็นสีดำ เพราะต้องออกกำลังกาย พร้อมชอบปูผัดผงกะหรี่กับผัดไทย, ถ้าให้อธิบายศิลปินที่ชื่อว่า WOODZ ด้วยสี เจ้าตัวบอกว่าอัลบั้มของเขาชื่อว่า Colorful Trauma ก็เลยคิดว่าน่าจะต้องมีสีสันหลากหลาย คัลเลอร์ฟูลแบบสุดๆ อารมณ์ประมาณสายรุ้งว่างั้น, ให้อธิบายมนุษย์ที่ชื่อ 'โช ซึงยอน' ด้วยสี เจ้าตัวบอกว่ามนุษย์ที่ชื่อว่าโช ซึงยอน จะออกแนวสีเขียวหน่อยๆ ทั้งใสซื่อและก็จริงใจ เหมือนกับว่าอยู่ในสภาพที่ปล่อยวางความโลภที่อยากจะทำการแสดงในตอนที่อยู่ในฐานะ WOODZ, คิดว่า WOODZ ในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นสีอะไร เจ้าตัวบอกว่าอีก 10 ปีข้างหน้าถ้าได้เป็นสีน้ำเงินที่สดใสเหมือนกับท้องฟ้าแบบนั้นก็คงจะดี เพราะช่วงเวลาในตอนนั้นมันทั้งบริสุทธิ์และเขาก็รักในดนตรี รักการแสดงบนเวที อีกทั้งช่วงเวลาที่ได้อยู่กับ MOODZ ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่ดีและสำคัญมากๆ เลยอยากจะชอบมันให้มากยิ่งกว่านี้ อยากมีความสุขมากยิ่งกว่านี้, ถ้าในอีก 10 ปีข้างหน้า WOODZ ได้กลับมาที่ไทยอีก เจ้าตัวบอกว่าอันดับแรกอยากแบกเป้ไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ได้ไปลองกินของอร่อยๆ ลองขี่สกูตเตอร์ไปเที่ยวในหลายๆ ที่ ก่อนชวน MOODZ เป็นภาษาไทยว่า "ไปเที่ยวกันนะ", ถ้าบนโลกใบนี้เหลือเพียงสีเดียว จะเลือกสีอะไร เจ้าตัวบอกไม่ต้องคิดให้ยุ่งยากเลยขอเลือกสีส้ม เพราะสำหรับเขาแล้วสีส้มมันให้ความรู้สึกโรแมนติกและเขาเองก็ชอบคิดอยู่บ่อยๆ ว่าอยากใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก ดังนั้นก็เลยเลือกสีส้ม และเพราะสีส้มคือสีของ MOODZ และเมื่อให้วาดสิ่งที่อยากให้ MOODZ ด้วยสีที่ชอบที่สุด เจ้าตัววาดลูกอมที่ฝั่งนึงเป็นสีส้มส่วนอีกฝั่งนึงเป็นสีน้ำเงิน ก่อนจบ VCR ที่เจ้าตัวขึ้นมาพร้อมเพลงถัดไป คือ Sour Candy
WOODZ ปรากฏตัวขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งในชุดใหม่คราวนี้มาในคอนเซ็ปต์ COLORFUL MAN ในเพลงสนุกๆ อย่าง Sour Candy ที่มีตะกร้าใส่ลูกอมที่ตั้งใจเอามาเองจากเกาหลีมามอบให้กับเหล่า MOODZ ในฮอลล์ พร้อมท่าเต้นเวฟกระชากใจ ต่อด้วยเพลง Multiply ที่เล่นกิมมิคขอตุ๊กตาหมีแต่งงาน จากนั้นก็ขอขอบคุณ MOODZ ด้วยเพลง Thanks to เวอร์ชั่นที่หวานและซึ้งมากที่สุด จบเพลงเจ้าตัวบอกว่าเพลง Thanks to ที่จบไปนั้นแทนความรู้สึกขอบคุณของเขาที่มีต่อ MOODZ แต่เมื่อกี๊เพลง Thanks to ได้ยินไม่ค่อยชัดเท่าไหร่เลยขอฟังอีกรอบ ว่าแล้วก็ชวนกันมาร้องเพลง Thanks to อีกรอบ ในท่อนที่ว่า "Thanks to your love. We just keep it up, just keep it up. Thanks to your love 너에게 Now, take my love. We just keep it up, just keep it up. 온 마음을 담아 thanks, thanks, thanks" ซึ่ง Moodz ในฮอลล์ช่วยกันร้องกับ WOODZ อย่างพร้อมเพรียง เจ้าตัวชอบใจใหญ่ ก่อนบอกได้มาแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวที่ประเทศไทยต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย มันไม่อะไรที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ตลอด ก็เลยยิ่งรู้สึกขอบคุณ รู้สึกมากไปกว่าคำว่าขอบคุณเสียอีก และอยากจะทำเวทีออกมาให้ดีที่สุด สิ่งที่เขาจะสามารถทำให้ MOODZ ได้ก็คงจะเป็นการร้องเพลงและการทำเพลง ในอนาคตต่อก็จะเป็น WOODZ ที่ได้เตรียมอะไรดีๆ ออกมาให้ทุกคนได้ดูกัน อะไรที่ทุกคนคาดไม่ถึงเลย ก่อนถามถึงของขวัญที่เตรียมมาจากเกาหลีที่เจ้าตัวบอกว่าหน้าตาคล้าย Sour Candy ที่ทุกคนดูไปใน VCR เพราะรู้สึกเสมอว่าตัวเองเป็นผู้รับอย่างเดียววันนี้ก็เลยอยากเป็นผู้ให้ คนที่อยู่ไกลน่าจะยังไม่ได้ ไว้คราวหน้าจะออกกำลังส่วนแขนมาอย่างดีเลย และก็จะโยนให้ไกลไปถึงสุดฮอลล์เลย พร้อมกระซิบว่าหลังคอนเสิร์ตจบ อาจจะมีของขวัญพิเศษให้อีกอย่างนึงด้วย
เวทีต่อมาที่ WOODZ เสกพื้นที่แห่งนี้ให้ร้อนแรงขึ้นราวกับสีแดงเพลิง กับเพลง Kiss of fire และ Chaser ซึ่งหลายคนชอบท่อนไฮโน้ตของเจ้าตัวมากเป็นพิเศษเพราะใส่สุดพลังมาก จากนั้นก็ชวนทุกคนอัพเลเวลความสนุกขึ้นมาอีกขั้นไปกับคอมโบเพลงในช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ตครั้งนี้ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเป็นช่วงที่สนุกที่สุดของ วู้ดจึ เฟสติวัล แล้ว เพลงต่อไปทุกคนต้องช่วยกันร้องถึงจะสนุกยิ่งขึ้น ว่าแล้วก็ชวนซ้อมร้อง Buck กันก่อนในท่อนที่ว่า "Life is short (life is short). And life's a race (life's a race) Whip whip (whip whip). Your time is 틱 택. Life is short (life is short). And life's a race (life's a race). Whip whip (whip whip). Your time is 틱 택"
ก่อนจะเข้าสู่ช่วงสุดมันส์ที่เริ่มด้วยเพลง Buck ต่อด้วยเพลงไตเติ้ลอย่าง 파랗게 (Love Me Harder), Trigger ที่พอจบเพลงเจ้าตัวบอกว่าเป็นพาร์ทที่ตั้งใจเลือกเพลงที่มันที่สุดมาเลย คราวหน้าจะสร้างเพลงที่สนุกกว่านี้มาให้อีก บรรยากาศตอนนี้ร้อนแรงมากๆ แต่เจ้าตัวบอกว่าได้เวลาแจ้งข่าวที่น่าเสียดาย เวลาเดินเร็วมาก รู้ตัวอีกทีก็เหลือเพลงสุดท้ายแล้ว ว่าแล้วก็เดินไปทักทายแฟนๆ ทั่วทุกสารทิศพร้อมบอกวันนี้พยายามตั้งใจทำให้วันของทุกคนเต็มไปด้วยสีสัน แต่กลับกลายเป็นว่าเหมือนกับทุกคนต่างหากที่มาทำให้วันของเขาสวยงามขนาดนี้ เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าสีของการแสดงวันนี้เป็นสีอะไร เขาก็ขอเลือกเป็นสีแดง เพราะว่าทุกคนแพชชั่นมาเต็มมาก สนุกมากๆ ก่อนอ้อนต่อว่าคนเราเวลาไปเที่ยวที่ไหนก็จะจำมันได้ที่กลิ่นและสี ต่อจากนี้ถ้าเขาเห็นสีแดงเขาก็จะคิดถึงทุกคนที่กรุงเทพฯ แน่ๆ เลย พร้อมบอกว่าถึงเพลงสุดท้ายที่เจ้าตัวถาม MOODZ ว่า "คราวหน้าถ้ามาอีก สัญญานะครับว่าเราจะมาสนุกด้วยกันอีก ลาก่อนนะครับ มู้ดจึ ครับ" ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง Hope to be like you ที่เจ้าตัวถอดอินเอียร์มาฟังเสียงมู้ดจึด้วย
คอนเสิร์ตจบ แต่ความสนุกยังไม่จบ ได้มาเจอกับ MOODZ ไทยแบบเต็มๆ ครั้งแรกทั้งที และยังได้เจอกับแพชชั่นที่ล้นเหลือของแฟนๆ ที่เปล่งประกายออกมาเป็นสีแดงชวนให้จดจำไปนานแสนนานแล้ว WOODZ ก็ขอเสิร์ฟความสนุกให้ชาวมู้ดจึไทย ด้วย ENCORE ตามเสียงเรียกร้องชื่อ "โช ซึงยอน!" อันดังกระหึ่ม ซึ่ง WOODZ ก็จัดให้เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งจากกล้อง LIVE CAM ส่งตรงจากหลังเวที ที่เจ้าตัวค่อยๆ เดินออกมาหาแฟนๆ อีกครั้งในชุดใหม่สุดน่ารักพร้อมกับเพลง On My own เพลงนี้ MOODZ ได้ใช้แทมบูรีนที่เตรียมมาเคาะจังหวะไปพร้อมๆ กับ WOODZ จบเพลงเจ้าตัวทักทายอีกรอบพร้อมบอกเฟสติวัลทั้งทีจะขาดอังกอร์ไปได้อย่างไร ก็เลยกลับมาอีกครั้งกับเพลง On My own ก่อนถามหาแทมบูรีนจาก MOODZ และชวนร้องเพลงนี้กันอีกรอบพร้อมโชว์การปรบมือพร้อมแทมบูรีนให้ดู แน่นอนว่าอังกอร์ทั้งทีจะมาเพลงเดียวก็กระไรอยู่ ว่าแล้วเจ้าตัวก็พาเข้าสู่เพลงต่อไปที่เป็นอีกเพลงไตเติ้ลอย่าง Bump Bump รวมไปถึง I Hate You ที่มีการวนเล่นหลายรอบแบบไม่มีตอนที่เตรียมมาด้วย เจ้าตัวบอกว่าอันนี้เป็นอะไรที่ไมได้อยู่ในแพลน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เพราะมีพี่ๆ แบนด์อยู่ด้วย ก่อนจะบอกข่าวร้ายของชาว MOODZ นั่นก็คือถึงช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ตแล้ว ถึงตอนนี้เขามีความสุขมากๆ จนไม่อยากให้คอนเสิร์ตจบเลย แต่ว่าต้องบอกลาจริงๆ แล้ว เมื่อวานตอนที่มาถึงไทยเขาก็รู้สึกว่าได้รับการต้อนรับอย่างดีเลย ตอนนั้นรู้สึกดีมากๆ แล้ว เมื่อก่อนเวลามาแสดงก็เหมือนกัน ทุกคนต้อนรับเขาเป็นอย่างดีและคอยเป็นกำลังใจ คอยเชียร์และมอบความรักให้เขาเสมอ ก็เลยมีความทรงจำที่ดีเสมอ ก่อนบอกขอบคุณทุกๆ คนมากๆ ที่มาวันนี้และขอบคุณที่สร้างความทรงจำที่จะไม่มีวันลืม
วันนี้มีหลายคนที่ช่วยกันตั้งใจทำงานเพื่อคอนเสิร์ต อันดับแรกเลยต้องขอขอบคุณทีมงานชาวไทยทุกๆ คนเลยที่ช่วยให้การแสดงผ่านไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ก่อนที่จะชมว่า "มู้ดจึของพวกเราอบอุ่นกันจังเลย ขอบคุณนะครับ" จากนั้นเจ้าตัวก็ขอบคุณทีมคอนเสิร์ตดที่ทำให้เขาสนุกไปกับมู้ดจึ และต้องขอบคุณวงดนตรีที่ช่วยยกระดับการแสดงไปอีกขั้นนึง, ขอบคุณสตาฟฟ์ แฮร์เมคอัพและก็สไตลิสต์ที่ช่วยแต่งตัวให้ดูเท่เสมอเลย รวมไปถึงยังขอบคุณพี่เมเนเจอร์และสตาฟฟ์ของบริษัททั้งหมดด้วย แน่นอนว่าเจ้าตัวไม่ลืมที่จะขอบคุณผู้ให้กำเนิด "ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ด้วยน้า และเหนือสิ่งอื่นใดต้องขอบคุณมู้ดจึที่ค้นพบผมท่ามกลามนักร้องมากมายบนโลกใบนี้ ขอบคุณมากๆ เลยครับ รักมากๆ เลยนะครับ ขอบคุณนะครับ" จากนั้นก็ชวน MOODZ ในฮอลล์ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสำหรับช่วงเวลาที่มีความสุขที่มีทั้งถ่ายเดี่ยว และถ่ายกับวงดนตรี เจ้าตัวระบายความสุขหลังถ่ายรูปว่า "ตอนนี้รู้สึกตื้นตันมากๆ เลย มีความสุขมากๆ เลย ชอบมากๆ มีความสุขสุดๆ เลย เรามาเล่นคอนเสิร์ตกันสัก 10 ชั่วโมงดีมั้ยครับทุกคน (ทุกคนเอาด้วย) ผมก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน เดี๋ยวเราลองดูนะครับคราวหน้า" ก่อนแซว MOODZ ว่าเมื่อกี๊มีคนนึงถือโปรเจ็กต์กลับด้านอยู่นะก่อนหัวเราะชอบใจ พร้อมบอกว่าตอนนี้เหลืออยู่เพลงเดียวจริงๆ แล้วนะ ทุกคนยังสนุกกันอยู่ใช่มั้ย สำหรับเขารู้สึกว่าวันนี้จะเป็นความทรงจำที่ดี จนไม่ต้องกินข้าวเดือนนึงก็ยังอยู่ได้เลย ก่อนบอกว่าล้อเล่นน้าทุกคน วันนี้ถือเป็นความทรงจำที่ดีมากก็จริง แต่ไม่กินข้าวหนึ่งเดือนไม่ได้นะ ทุกคนต้องทานข้าวเสมอนะ เขาก็จะตั้งใจทำดนตรีที่หลากหลายอยู่เสมอเหมือนชื่องานในวันนี้ Colorful Trauma ที่ตัวเขาสามารถทำออกมาได้สำเร็จก็ต้องขอบคุณมู้ดจึทุกคนที่รักในความคิดและภาพลักษณ์ที่หลากหลายของเขาก่อนถามว่า "ทุกคนจะเรียกผมมาอีกใช่มั้ยครับ (MOODZ : ใช่ค่า) จริงๆ นะ (MOODZ : จริง) ผมจะมีความสุขมากเลยถ้าทุกคนจะเรียกผมกลับมาอีก ถ้ามู้ดจึเรียกล่ะก็ ผมมาเสมอแน่นอน ผมรักคุณ หวังว่าวันนี้ของทุกคนจะเต็มไปด้วยสีสันนะครับ และผมขอลาไปก่อน Thank you Moodz" ก่อนจะปิดท้ายช่วงเวลาความสุขแสนพิเศษระหว่าง WOODZ และ MOODZ ชาวไทยไปด้วยเพลง Better and better
สำหรับ WOODZ LIVE "COLORFUL TRAUMA" in BANGKOK ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความเป็นศิลปินที่เต็มไปด้วยความสามารถ ศักยภาพ อันหลากหลายของ WOODZ ตลอดการแสดง 2 ชั่วโมงเต็ม เขาได้โชว์เสน่ห์และเสียงร้องในหลากหลายด้านของออกมา สะกดใจผู้ชมทั้งฮอลล์คอนเสิร์ตให้ตกอยู่ในโมเม้นต์มหัศจรรย์จากเสียงเพลงของเขา ที่แต่ละเพลงเขาได้คัดเลือกมาด้วยใจที่พิถีพิถัน แม้กระทั่งรูปแบบเวที รูปแบบการแสดง ของขวัญที่เขาเลือกมามอบให้แฟนๆ ระหว่างการแสดง ก็เป็นสิ่งที่เกิดจากไอเดียของเขา ที่อยากจะมอบของขวัญที่ดีที่สุดให้แฟนๆ ที่มอบความสุขให้กับเขาเสมอมา
เรียกได้ว่าทั้งสนุก มันส์ และซาบซึ้ง ประทับใจสมการรอคอยของ MOODZ ไทย งานนี้ต้องยกเครดิตให้กับ Be Hear Now Kpop ผู้จัดไฟแรง ที่เนรมิตงานคอนเสิร์ตสุดอลังการ ที่จัดเต็มทั้งแสง สี เสียง ให้ WOODZ ได้โชว์เพอฟอร์แมนซ์อย่างเต็มรูปแบบ ที่จะกลายเป็นความทรงจำแสนพิเศษของทุกๆ คนตลอดไป